​โควิด-19 สงขลาวันนี้พบผู้ป่วยเพิ่ม 29 สะสม 269 คน สั่งคุมเข้มพื้นที่แนวชายแดน


20 เม.ย. 2564

20-04-64 ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดสงขลาวันนี้ พบผู้ป่วยเพิ่ม 29 คน ยอดผู้ป่วยสะสม 269 คน เป็นผู้ป่วยในประเทศ 265 คน และเป็นผู้ป่วยต่างประเทศ 4 คน แม่ทัพภาค4 สั่งคุมเข้มพื้นที่แนวชายแดนกันคนลักลอบเข้าเมือง ขอความร่วมมือประชาชนดูแลตัวเองอย่างเข้มงวด


ที่ด่านศุลการกรสะเดาแห่งใหม่ ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมหารือเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับคนไทยกลับเข้าประเทศ หลังมาเลเซียประกาศให้ผู้ที่ถือวีซ่าประเภทนักท่องเที่ยวที่อยู่เกินกำหนดและที่ลักลอบทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตให้เดินทางออกจากประเทศ ภายในวันที่ 21 เมษายน 2564 หลังจากที่ได้มีการผ่อนผันมาแล้วหลายครั้งจากผลกระทบการระบาดของโรค COVID-19 ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งหากอยู่เกินกำหนดจะต้องเข้าร่วมโครงการเปรียบเทียบเพื่อเดินทางกลับ โดยการจ่ายค่าปรับ หรือถูกดำเนินคดีตามกฎหมายมาเลเซีย

พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า ประเทศมาเลเซียได้ผลักดันให้ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเมืองผิดกฎหมาย ต้องเดินทางออกจากประเทศก่อนวันที่ 21 เมษายน 2564 นี้ โดยเฉพาะกลุ่มคนไทยที่อยู่ในมาเลเซียนั้น จึงได้มีการเตรียมการรับมือเรื่องนี้ไว้ โดยได้ประสานไปยังจังหวัดต่างๆ ที่อยู่ติดชายแดนมาเลเซียให้มีมาตรการรับมือทั้งเรื่องของสถานที่สำหรับรองรับกลุ่มดังกล่าว ทั้งยังได้สั่งการให้หน่วยกำลังทุกหน่วยประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดอย่างใกล้ชิด ตลอดจนหน่วยงานสาธารณสุข และหน่วยที่เกี่ยวข้อง โดยนำมาตรการที่เคยใช้ควบคุมโรค COVID-19 ที่ใช้ได้ผลเป็นอย่างดีมายกระดับเพิ่มเติม

ในส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ป้องกันตามแนวชายแดนได้มีการกำชับให้เข้มงวดมาตรการดูแลสกัดกั้นตามแนวชายแดนมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการยกระดับการตรวจตราตามแนวชายแดนอย่างทั่วถึง เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าตรวจตามแนวชายแดน โดยเฉพาะการเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติผิดกฎหมายของแรงงานคนไทยที่ไปทำงานยังมาเลเซียที่จะต้องนำเข้ากระบวนการ Quarantine ป้องกันโรค COVID-19 ทุกคน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค สำหรับชายแดนที่ต้องดูแลเป็นพิเศษนั่นคือฝั่งจังหวัดนราธิวาสและสงขลา เพราะมีช่องทางธรรมชาติหลายช่องทางที่สามารถแอบลักลอบเข้ามาได้ ประกอบกับทั้ง 2 จังหวัดนี้ เป็นพื้นที่สีแดงที่ต้องมีการควบคุมสูงสุดเนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโรค

ากนั้นแม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และคณะได้ตรวจพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ณ หลักเขตแดนที่ 23/13 หมู่ที่ 7 ตำบลสำนักขาม อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา พร้อมรับฟังการชี้แจงแนวทางการปฏิบัติงาน การวางกำลังป้องกันตามแนวชายแดนของหน่วย ซึ่งผลการปฏิบัติงานตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนจนถึงปัจจุบัน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ได้ดำเนินการจับกุมการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดสตูลและจังหวัดสงขลาแล้ว 5 ครั้ง โดยเป็นคนไทยทั้งหมด 7 คน ส่วนกรณีการรับคนไทยเข้าประเทศผ่านช่องทางด่านสะเดา ตั้งแแต่วันที่ 1 เมษายนจนถึงปัจจุบันนั้น มียอดลงทะเบียนขอเดินทางกลับทั้งหมด 417 คน เดินทางกลับจริง 303 คนโดยในจำนวนนี้เป็นชาวจังหวัดสงขลา 52 คน

โอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ฝากถึงประชาชนในพื้นที่ได้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ช่วยกันสร้างความตระหนักรู้ในมาตรการและความจำเป็นในการเฝ้าระวังป้องกันโรค COVID-19 โดยเฉพาะผู้ที่กำลังจะเข้ากลับมายังประเทศไทยขอให้แจ้งผ่านเข้ามายังเจ้าหน้าที่ เพื่อจะได้อำนวยความสะดวก ช่วยเหลือ และนำเข้าสู่กระบวนการคัดกรองโรคตามที่ สบค. กำหนด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพื่อความปลอดภัยของทุกคน ยืนยันไม่ว่าจะเดินทางเข้ามาผ่านช่องทางใดเจ้าหน้าที่พร้อมรับและดูแล แต่ต้องมีการคัดกรองโรคอย่างเข้มข้น ทั้งนี้หากพบเห็นผู้ที่แอบลักลอบเข้ามายังหมู่บ้าน ชุมชนของตนโดยไม่ผ่านการคัดกรองโรค ก็ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยทันที เพื่อป้องกันไม่ให้มีการนำเชื้อจากต่างประเทศเข้ามาในพื้นที่

เช่นเดียวกับที่อำเภอสะบ้าย้อย นายนพพร หนูเพชร นายอำเภอสะบ้าย้อย พร้อมด้วย พ.ต.ท.ถาวร ผลกล้า รอง ผกก.ป.สภ.สะบ้าย้อย นำทีมทหาร ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และสาธารณสุขอำเภอสะบ้าย้อย ลงพื้นที่อำเภอสะบ้าย้อย ตรวจเยี่ยมเจ้าหน้าที่ ในการลาดตระเวนเฝ้าระวัง ป้องกันผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและไม่ผ่านจุดคัดกรองโรคโควิด-19 บริเวณเขตรอยต่อแนวชายแดน ไทย-มาเลเซีย ซึ่งเป็นช่องทางธรรมชาติ เขตพื้นที่หมู่ที่ 5 บ้านสำนักเอาะ ตำบลเขาแดง อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา

เนื่องจากประเทศมาเลเซียได้ผลักดันให้ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเมืองผิดกฎหมาย ต้องเดินทางออกจากประเทศก่อนวันที่ 21 เมษายน 2564 นี้ โดยเฉพาะกลุ่มคนไทยที่อยู่ในมาเลเซีย จังหวัดสงขลาจึงได้มีการเตรียมการรับมือและประสานไปยังอำเภอที่อยู่ติดชายแดนมาเลเซียให้เพิ่มความเข้มงวด เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการลาดตระเวน สำหรับอำเภอสะบ้าย้อย ซึ่งมีเขตแนวชายแดนที่เป็นช่องทางธรรมชาติ สามารถลักลอบเข้ามาได้ง่าย ทางอำเภอจึงร่วมกับ ทหาร ตำรวจ ตชด. ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ ร่วมกันลงพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวน เฝ้าระวังไม่ให้เกิดการลักลอบผ่านเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย

สำหรับวันนี้มีคนไทยที่ลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติทั้งหมด 9 คน ส่วนใหญ่จะเป็นครอบครัวที่เดินทางไปประกอบอาชีพรับจ้างเกี่ยวกับสวนยางพารา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ อสม.ในพื้นที่จะนำเข้ากระบวนการคัดกรองโรค COVID-19 ก่อนทุกคน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป

ที่มา สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา