ม.หาดใหญ่ส่งเสริมงานวิจัย จัดประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติและนานาชาติครั้งที่ 7
ศูนย์ข่าวบ้านเรา.- มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ร่วมส่งเสริมงานวิจัยเพื่อพัฒนาสังคม จัดประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติ และนานาชาติ ครั้งที่ 7
วันนี้( 23 มิถุนายน 2559) ณ ห้องประชุม อาคารคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ มีการจัดการประชุมและนำเสนอผลงานวิจัยในงานประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติ และนานาชาติ ครั้งที่ 7 เพื่อสร้างองค์ความรู้อันจะนำไปสู่การพัฒนาสังคมไทย ตลอดจนการจัดการเรียนการสอน การให้บริการทางวิชาการ เพื่อเป็นฐานความรู้แก่ชุมชนและสังคมในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป และดำเนินการส่งเสริมสนับสนุนการเผยแพร่ผลงานวิจัยที่ดำเนินการแล้วเสร็จให้ได้มีโอกาสเผยแพร่ในวงกว้างและขยายองค์ความรู้สู่การนำไปใช้ประโยชน์ให้กว้างขวางขึ้น โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิทวัส ดิษยะศริน สัตยารักษ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เป็นประธานในพิธีเปิด
ในงานก็มีการจัดการบรรยายพิเศษโดยผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศ ได้แก่ การบรรยายพิเศษเรื่อง “การศึกษาเพื่อพัฒนาที่ยั่งยืน” โดย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กาญจนา เงารังสี ประธานกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ สาขาการศึกษา และการบรรยายพิเศษเรื่อง “วิจัยกับการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ โดย ดร.จันทรวิภา ธนะโสภณ รองผู้อำนวยการด้านการวิจัยมุ่งเป้า และรักษาการผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และผู้ช่วยศาสตราจารย์สุภาวดี โพธิยะราช ผู้ประสานงานโครงการวิจัยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการภายใต้ฝ่ายอุตสาหกรรม สานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย และในงานนี้ยังมีการมอบรางวัลงานวิจัยดีเด่นทั้งระดับชาติและระดับนานาชาติอีกด้วย
ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กาญจนา เงารังสี ประธานกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ สาขาการศึกษา กล่าวว่า การจัดงานที่ ม.หาดใหญ่ในครั้งนี้ นับเป็นมิติใหม่ของสถาบันอุมศึกษาที่ได้เชิญนักวิจัยจากที่ต่างๆได้เข้ามาร่วม จะเป็นการขับเคลื่อนกลไกงานวิจัยให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น โดยภาพรวมนั้น เนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการอยู่ในช่วงการปฎิรูปการศึกษา โดยมีการใช้การวิจัยเป็นฐาน นำการวิจัยเอาเป็นแนวคิด เป็นองค์ความรู้ในการจัดทำนโยบาย จัดทำยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนการศึกษาของประเทศในทุกๆระดับ เพราะฉะนั้นการวิจัยต่อไปจะต้องมีความเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับบริบทของประเทศไทยและสอดคล้องกับสภาพการของศตวรรษที่ 21 ซึ่งจะต้องมีแนวโน้มของการวิจัยเป็นองค์รวม และเป็นผลจริง นำการวิจัยด้านการศึกษามาปฎิบัติได้ ในด้านการศึกษาผลผลิตของโครงการวิจัย ส่วนใหญ่จะอยู่ในระบบ ยังไม่ค่อยมีงานวิจัยด้านการศึกษานอกระบบมากนัก เราจึงต้องให้ความสำคัญของการวิจัยในการศึกษานอกระบบให้มากยิ่งขึ้น เช่น ผู้ด้อยโอกาส เป็นต้น
ดร.กาญจนา เงารังสี
ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุภาวดี โพธิยะราช -ผู้ประสานงานโครงการวิจัยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ -ภายใต้ฝ่ายอุตสาหกรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยภาพรวมของ สกว.ในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้น ภาคใต้มีความเข้มแข็งมาก มีนักวิจัยที่ทำงานตอบโจทย์ได้ดี ทาง สกว.จึงเข้ามาดูแลและพัฒนางานให้สอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่ เพื่อที่จะร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของภาคใต้
ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุภาวดี โพธิยะราช
ทิศทางการพัฒนาในปัจจุบันนั้นจะต้องเป็นการขับเคลื่อนงานวิจัยให้สอดคล้องกับบริบทของนักท่องเที่ยว มีการสนับสนุนงานวิจัยภาคใต้ทั้ง 14 จังหวัดแต่ยังขาดพื้นที่สงขลาที่จะเชื่อมโยงไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งลุ่มน้ำทะเลสาบ ทาง สกว.จึงได้มีการเชิญชวนนักวิจัย และภาคส่วนต่างๆ เข้ามาร่วมกันพัฒนางานวิจัย เพื่อให้เป็น RoadMap ที่จะพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ ในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ต่อไป
“เราจะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยว พักที่สงขลานานขึ้น” นี่เป็นจุดที่นักวิจัยจะต้องสร้างจุดดึงดูด เพื่อให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ บนฐานอัตลักษณ์ บนวิถีชีวิต รวมถึงอาจจะมีกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ต้องเพิ่มมากขึ้น
ที่สำคัญของการให้โจทย์งานวิจัย จะต้องทำให้ งานวิจัยเกิดการใช้ได้จริง ขายได้ในเชิงกิจกรรม ในพื้นที่ภาคใต้ จะต้องเป็นการสร้างแบรนด์ของพื้นที่ เน้นเรื่องการท่องเที่ยวโดยชุมชน คือให้ชุมชนลุกขึ้นมาจัดการบริการการท่องเที่ยวด้วยตัวของเขาเอง บนฐานอัตลักษณ์ บนวิถีถิ่น ที่มีอยู่คิดว่าน่าจะเป็นเทรนด์สำคัญ และอีกอย่างที่สำคัญ สงขลาอาจจะต้องมีการค้นหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ หรือว่ากิจกรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้พักนานขึ้น นี่จะเป็นประเด็นวิจัยที่ทาง สกว.ให้การสนับสนุน ค้นหาจุดขาย หาจุดเด่นๆ เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภาคใต้ต่อไปในอนาคต