เผาแล้วทวดตีบ อายุ 120 ปีคุณทวด 6 แผ่นดิน-เจ้าภาพแจกช้อนหลังในงานหายไปจำนวนมาก


22 มี.ค. 2560

เผาแล้วทวดตีบ หรือ นางตีบ ดำแดง ปิดตำนานหญิงที่มีอายุยืนยาวที่สุด 120 ปี อยู่มา6 แผ่นดินตั้งแต่สมัยรัชกาลที่5 จนถึงรัชกาลที่ 10  ช้อนหมดไปกว่า2,000 คันตามความเชื่อที่ว่าหากนำช้อนงานศพของผู้ที่มีอายุ 105 ปีขึ้นไปกลับไปเก็บไว้ที่บ้านจะมีกินมีใช้ ทำมาค้าขึ้น และอายุยืนยาว

19.jpg

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 มี.ค. 60 ที่วัดพุทธิการาม หรือวัดปลักกริมใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้มีพิธีฌาปณกิจศพ นางตีบ ดำแดง หรือคุณทวดตีบ อายุ 120 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่มีอายุยืนยาวที่สุดในจ.สงขลาและอาจพูดได้ว่ายืนยาวที่สุดในประเทศไทยในขณะนี้ และอยู่มา6 แผ่นดินตั้งแต่สมัยรัชกาลที่5จนถึงรัชกาลที่10 ซึ่งตามประวัติทวดตีบเกิดเมื่อพ.ศ.2440 และได้เสียชีวิตลงอย่างสงบเมื่อวันที่พุธที่15 มีนาคมที่ผ่านมา ที่บ้านพักเลขที่ 21 ซอย2 แก้วสมิทธิ์ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา

ซึ่งบรรยากาศในพิธีฌาปณกิจศพมีลูกหลานและญาติๆทั้งในจ.สงขลา พัทลุง และสตูล รวมทั้งผู้ที่เคารพนับถือมาร่วมพิธีกว่า 500 คน เพื่อร่วมไว้อาลัยและส่งดวงวิญญาณทวดตีบสู่สวรรค์เป็นครั้งสุดท้าย โดยมี ดร.ไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เป็นประธานในพิธี และมี นายสมบัติ ชนะสิทธิ์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลแม่ขรี จ.พัทลุง ซึ่งเคยท้าเดิมพันวัวกับทวดตีบว่าหากอยู่ถึงอายุ 110 ปี ก็จะให้วัว1 ตัว และแพ้เดิมพันจนต้องเสียวัว1 ตัวตามที่สัญญาไว้กับทวดตีบ ก็มาร่วมพิธีด้วย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบง่าย

และมีสิ่งหนึ่งที่กลายเป็นสัญลักษณ์ในงานศพของทวดตีบนั่นคือช้อน เพราะเชื่อกันว่าการได้ช้อนในงานศพของผู้ที่มีอายุตั้งแต่105 ปี ขึ้นไปกลับไปเก็บไว้ที่บ้านจะทำให้เกิดความสิริมงคลมีกินมีใช้ ทำมาค้าขึ้น เงินทองไหลมาเทมา ไม่เจ็บไม่ไข้และอายุยืนยาว ทำให้ตลอดช่วงบำเพ็ญกุศลศพของทวดตีบ มีทั้งผู้ที่มาร่วมงานศพและประชาชนทั่วไปเดินทางมาขอช้อนกลับไปเป็นที่ระลึกเป็นจำนวนมากและหมดไปแล้วกว่า 1,000 คัน โดยเฉพาะช้อนที่ใช้ในบ้านของทวดตีบหมดตั้งแต่วันแรกๆ เนื่องในยุคสมัยนี้ยากที่จะมีคนที่อายุยืนยาวเกิน100 ปีขึ้นไป เมื่อข่าวการเสียชีวิตของทวดตีบ กระจายออกไปผู้คนจากทั่วสารทิศจึงเดินทางมาขอช้อนไปเป็นที่ระลึกจำนวนมาก

นางผ่องศรี บุณรพันธ์ อายุ 86 ปี ลูกสาว ของทวดตีบ เปิดเผยว่า ในพิธีฌาปณกิจศพทางญาติได้สั่งช้อนมาเพิ่มอีก 1,000 คัน เพื่อเป็นที่ระลึกในงานศพและแจกจ่ายให้กับผู้ที่มาร่วมพิธีซึ่งคาดว่าหมดไม่มีเหลือเช่นกัน ยังไม่นับรวมช้อนที่ใช้ในงานศพซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากตามความเชื่อที่ว่าหากจะให้ดีและเป็นมงคลจริงต้องแอบเอาช้อนจากงานศพเท่านั้นซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นพิธีก็ต้องมานับอีกทีว่าหายไปจำนวนเท่าไหร่แต่น่าจะเป็นร้อยแต่ญาติๆและลูกหลานก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเป็นความเชื่ออย่างน้อยก็ให้ลูกหลานที่นำช้อนกลับไปได้ร่วมกันรำลึกถึงทวดตีบ ตลอดไป

18.jpg