การเงินน่ารู้ตอน เพิ่มความสะดวกในการชำระเงินด้วยบัตรเดบิต


2 พ.ค. 2560

เพิ่มความสะดวกในการชำระเงินด้วยบัตรเดบิต

02.jpg

            “บัตรเดบิต (Debit Card)” คือ บัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ธนาคารออกให้แก่ลูกค้าโดยผูกกับบัญชีเงินฝาก และมีคุณสมบัติการใช้งานเช่นเดียวกับบัตร ATM แต่จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างจากบัตร ATM ตรงที่สามารถใช้ซื้อสินค้าและบริการต่างๆ ได้ โดยบัตรเดบิตเป็นช่องทางการชำระเงินที่ถูกคิดค้นขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับประชาชนใช้ชำระค่าสินค้าและบริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากในอดีตการซื้อขายสินค้าและบริการส่วนใหญ่ต้องใช้เงินสดเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ส่งผลให้เกิดความยุ่งยากหลายอย่างระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย เช่น การที่ผู้ขายไม่มีเงินทอนให้กับผู้ซื้อ การที่ผู้ซื้อไม่มีเงินสดเพียงพอที่จะชำระเงินให้กับผู้ขาย

            ในปัจจุบันการชำระเงินโดยใช้บัตรเดบิต ยังมีจำนวนไม่มากนัก เนื่องจากร้านค้าที่จะสามารถรับชำระเงินได้นั้นต้องมีอุปกรณ์รับชำระเงินจากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า เครื่อง EDC (Electronic Data Capture) ซึ่งในปัจจุบันร้านค้าที่ติดตั้งเครื่อง EDC ยังมีไม่มากนัก พราะสถาบันการเงินคิดค่าธรรมเนียมในการรับชำระบัตรเดบิตที่ค่อนข้างสูง คือ ประมาณ 1.5 – 2.5% ของมูลค่าสินค้าและบริการ นอกจากนี้ยังมีค่าเช่าเครื่อง และค่าการติดตั้งเครื่อง EDC ซึ่งเป็นภาระสำหรับร้านค้าทั่วไปอย่างมาก

            โครงการส่งเสริมการกระจายเครื่อง EDC จึงเกิดขึ้น เพื่อขยายการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ในโครงการ National e-Payment อันเป็นแผนพัฒนาระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่รัฐบาลต้องการผลักดันให้เป็นระบบการชำระเงินที่มีมาตรฐาน เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานเทคโนโลยีของประชาชนในปัจจุบัน ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ในการชำระค่าสินค้าและบริการให้มากขึ้น ล่าสุดในเดือนมีนาคม 2560 กระทรวงการคลังได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินหลายแห่งเพื่อดำเนินการติดตั้งเครื่อง EDC จำนวน 560,000 เครื่องให้กับร้านค้าและหน่วยงานราชการ โดยมีมาตรการส่งเสริม เช่น ลดค่าธรรมเนียม ลดหย่อนภาษี เป็นต้น

01.jpg

ขอเชิญชวนประชาชนทุกท่าน รวมถึงร้านค้าต่างๆ หันมาใช้บริการการชำระเงินด้วยบัตรอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเครื่อง EDC ให้มากขึ้น เพราะสามารถช่วยประเทศลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการธนบัตรอย่างมาก และสามารถนำเงินที่ประหยัดได้ไปใช้พัฒนาประเทศด้านต่างๆ นอกจากนี้มาตรการดังกล่าวยังสามารถช่วยลดต้นทุนในการใช้บริการเครื่อง EDC ให้กับร้านค้าเป็นอย่างมากอีกด้วย คาดว่ามีความเป็นไปได้ที่ร้านค้าจะให้ความสนใจในการติดตั้งเครื่อง EDC มากขึ้น เมื่อรวมกับจำนวน 400,000 เครื่องในปัจจุบัน ย่อมที่จะส่งผลให้ประชาชนมีความสะดวกสบายที่จะชำระค่าสินค้าหรือบริการผ่านเครื่อง EDC ด้วยบัตรอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นเช่นกัน

1213.jpg