ปศุสัตว์ร่วมสนามชนฯ ทำบัตรประจำตัวโค ป้องกันโรคปากเท้าเปื่อยในวัวชน
กรมปศุสัตว์หารือนายกสมาคมชนโคแห่งประเทศไทยหาแนวทางป้องกันป้องกันโรคระบาดชนิดปากและเท้าเปื่อยในวัวชน มีแผนทำบัตรประชาชนให้วัวชนทุกตัวคล้ายๆกับประชาชนของคนซึ่งจะทราบข้อมูลของวัวทุกตัวรวมทั้งป้องกันการสูญหาย
วันที่ 23 ส.ค. 60 นายเดชอิศม์ ขาวทอง นายกสมาคมชนโคแห่งประเทศไทย และประธานกรรมการบริหารสนามกีฬาชนโคนานาชาติรัตภูมิ เปิดเผยว่า ได้ร่วมหารือกับนายไพโรจน์ เฮงแสงชัย รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ พร้อมเจ้าหน้าที่จากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้งปศุสัตว์ เขต9 สำนักงานควบคุมป้องกันและบำบัดโรคสัตว์
เพื่อวางมาตรการป้องกันโรคระบาดชนิดปากและเท้าเปื่อยที่เกิดขึ้นในหลายจ.สงขลาและอีกหลายจังหวัดของภาคใต้ ทั้งในโค กระบือ โดยเฉพาะวัวชน ซึ่งได้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจและยังเป็นพาหะนำโรคไปยังพื้นที่ต่างๆอย่างรวดเร็วจากการเคลื่อนย้ายบ่อยครั้ง
นายเดชอิศม์ เปิดเผยว่า ทางกรมปศุสัตว์มีแผนจะร่วมกับทางสมาคมชนโคแห่งประเทศในการป้องกันโรคระบาดชนิดปากและเท้าเปื่อยในวัวชน เพื่อไม่ให้กระทบกับกีฬาวัวชนเพราะที่ผ่านมาเมื่อมีการระบาดของโรคการชนวัวก็จะถูกระงับไว้ชั่วคราว
ซึ่งมี 3 แนวทาง คือ การทำบัตรประจำตัววัวหรือบัตรประชาชนวัวชน การฉีดวัคซีนป้องกันปีละ2ครั้ง และวางแผนพัฒนาวัวชนให้มีสายพันธุ์ที่ดีขึ้นโดยเฉพาะการทำบัตรประชาชนวัวชนซึ่งคล้ายๆกับบัตรประชาชนของคน แต่ยังติดอยู่ที่การทำสัญลักษณ์โดยได้เสนอแนวทางปฎิบัติให้สมาคมชนโคแห่งประเทศไทยนำไปหารือกับสมาชิก 2 แนวทางถึงความเป็นได้คือการฝังไมโครชิพที่ตัววัวตั้งแต่ยังเล็กอยู่หรือการใช้สลักเบอร์ที่หู ซึ่งทั้งสองวิธีจะสามารถรู้ข้อมูลของวัวแต่ละตัวได้อย่างชัดเจน
ทั้งในเรื่องของการดูแลวัวโดยเฉพาะการฉีควัคซีนป้องกันโรคระบาดเพราะจะมีการบันทึกอยู่ในสมุดประจำตัววัวทุกตัว รวมทั้งยังป้องกันวัวสูญหายได้ด้วยเพราะไม่ว่าจะเคลื่อนย้ายไปที่ไหนทั้งในและต่างประเทศก็จะตรวจสอบได้ทันทีว่าเป็นวัวของใครและมาจากไหน ซึ่งแนวทางดังกล่าวขึ้นอยู่กับเจ้าของวัวว่าจะยอมหรือไม่เพราะวัวชนแต่ละตัวราคาตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักสนการที่คนนอกจะเข้าถึงตัววัวนั้นค่อนข้างยากเพราะเจ้าของกลัวว่าอาจจะส่งผลกระทบกับวัวชน ซึ่งเรื่องนนี้ทางสมาคมชนโคแห่งประเทศไทยจะนัดประชุมเจ้าของสนามชนโคและคอกวัวชนต่างๆในภาคใต้อีกครั้งว่าจะมีมติออกมาอย่างไร