เปิดชีวิตนิสิตไทยในอินโดนีเซีย Living in Jakarta as an exchange student
ชีวิตนิสิตไทยในอินโดนีเซีย: Living in Jakarta as an exchange student
ตลอดเดือนกว่าๆที่ผ่านมา ผมได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการการมาเรียนที่อินโดนิเซีย....มาดูกัน....
สวัสดีครับ ผมชื่อ นายศาสตราชัย เกตุรัตน์ ชื่อเล่น บาส นิสิตชั้นปีที่ 3 วิชาเอกภาษาอังกฤษ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ สงขลา ผมได้รับทุนการศึกษาจากฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัย ในโครงการ Credit Transfer เพื่อมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนในเมืองจาการ์ต้า ประเทศอินโดนิเซีย เป็นเวลา 1 ภาคการศึกษา ตั้งแต่ส.ค. – ธ.ค. 2560
ในวันแรกของการเดินทางมา ทุกอย่างเรียบร้อยดี การเดินทางตรงตามเวลา พวกเรามาถึงสนามบินที่จาการ์ตาอย่างปลอดภัย โดยมี staff ชาวอินโดไปส่งที่พัก ในวันที่ 4 – 6 สิงหาคม เพื่อนๆร่วมมหาวิทยาลัยชาวไทยที่มาเรียนซัมเมอร์ที่มหาลัยเดียวกันก่อนหน้านี้ ก็ได้พาเราไปแนะนำสถานที่ต่างๆ จุดแลกเงินตรงไหนดีอัตราแลกเงินดี พาไปศึกษาเส้นทางการไปเรียนยังไง แนะนำการใช้ชีวิตอย่างไร อาหารอะไรอร่อย
ในวันที่ 7 สิงหาคม เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของพวกเรา วิชาที่เรียนวันแรกคือวิชา Business English และ วิชา Cross cultural understanding ซึ่งในวันแรกที่เรียนนั้น มีนักเรียนชาวอินโดนิเซีย ชาวอีหร่าน ชาวญี่ปุ่น และลูกครึ่งจีน-อินโดนิเซีย เรียนอยู่ด้วย ซึ่งในวันแรก ผมรู้สึกตื่นเต้นมากๆๆ นักเรียนหลายๆคนที่อายุเท่าๆกัน พูดภาษาอังกฤษกันอย่างคล่องแคล่วเพราะเค้าเรียนมาตั้งแต่ยังเด็ก เลยถูกปลูกฝังให้ใช้ภาษาอังกฤษ ในคาบแรกๆก็มีแบบฝึกหัดให้ทำกันนิดหน่อย ผมรู้สึกเขิน และไม่กล้ามากในการสื่อสารภาษาอังกฤษ ในการคุยกับเพื่อนหรือโต้ตอบอาจารย์ เพราะตื่นเต้น จึงอาจพูดผิดจนเพื่อนๆในห้องหัวเราะไปบ้าง คาบนี้ยังดีอยู่ที่อาจารย์สอนเป็นภาษาอังกฤษ
แต่ในคาบวันพุธ คือคาบวิชาภาษา Italian คาบนี้ค่อนข้างยากเพราะ อาจารย์สอนภาษาอิตาเลียน โดยใช้ภาษาอินโดนิเซีย ทำให้ผมกับมุก เพื่อนคนไทยอีกคน ถึงกับ งง แต่ยังดีที่พวกเราพยายามหาเพื่อนชาวอินโดนิเซีย และขอให้ช่วยเป็นล่ามให้พวกเราหน่อย เราเลยค่อยเรียนรู้เรื่องขึ้นมาบ้าง ในคาบนี้ถึงแม้จะยุ่งยากกับการเข้าใจ แต่มีเพื่อนๆที่น่ารักคอยช่วยเหลือเราตลอด ในคาบวันพฤหัสบดี ผมต้องตื่นตั้งแต่ 6 โมง เพราะมีคาบเรียนวิชา Introduction to Literature ในเวลา 7.00 น. ในคาบนี้ ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์วรรณกรรม วรรณคดี ซึ่งก็เรียนมาแล้ว ตอนอยู่ปี 2 ที่มหาวิทยาลัยทักษิณ ที่น่าแปลกใจคือในคาบเรียน มีคนที่ตาบอด มาเรียนด้วยคนหนึ่งในคาบนี้
สำหรับความเป็นอยู่ ผมสบายดีครับ ผู้คนน่ารัก ที่พักก็สบาย ไม่จำเป็นต้องซักเสื้อผ้าเอง เพราะแม่บ้านจะซักให้ ถึงแม้การเดินไปเรียน หรือไปไหนจะอาศัยการเดินมาก จนน้ำหนักลดลงไปบ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายไปในตัว
มหาวิทยาลัย Atma Jaya Catholic University มีขนาดเล็ก แต่ภายในก็ดูสะดวกสบาย มีที่กดน้ำฟรีด้วย อาหารที่อินโดนิเซียก็อร่อย แต่เมนูส่วนใหญ่จะเน้นเนื้อจำพวกไก่ วัว และน้ำมัน ผักในการประกอบอาหารไม่ค่อยจะมีมากนัก เว้นแต่ถ้าเป็นพวกข้าวแกง ก็อาจจะหาเมนูผักกินได้บ้าง
ตลอด 2 สัปดาห์ผมได้มีโอกาสไปเที่ยว Tugu Monument Nasional (Monas) ซึ่งเป็น อนุสาวรีย์แห่งชาติ ที่จาการ์ตากลาง และไปที่ Jakarta’s old town และไปเยี่ยมชม พิพิทธภัณฑ์แห่งชาติด้วย ตอนนี้ผมก็พยายามที่จะ make friend เยอะๆ เพื่อที่จะฝึกภาษา ผมมีเพื่อนชื่อ Yosa ที่อยู่ใกล้ๆ คอยพาเราไปชมเมือง และ เป็นคู่ฝึกภาษาได้เป็นอย่างดี และยังมี Boy เพื่อนในคลาส ก็พาเราไปหลายๆที่ในจาการ์ตาเหมือนกันและเค้าจะพาเราไปเที่ยวบันดุง เร็วๆนี้ด้วย
นอกจากนี้ บาสยังเข้าร่วม Swimming club และ Hiking club ของมหาลัยอีกด้วย ซึ่งช่วยให้เราสร้างสังคม บวกกับออกกำลังกายไปในตัว สัปดาห์แรกๆพวกเราก็สามารถสั่งข้าวเป็นภาษาอินโดนิเซียรวมถึงทักทายเล็กๆน้อยๆได้บ้างแล้ว ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาตัวเองต่อไป
ข้อมูลจาก Diyaporn Wisamitanan, lecturer , Faculty of Humanities & Soc. Sci. ,Thaksin University, Songkhla, Thailand