ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคภาคครัวเรือนในพื้นที่ภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจ เดือนกันยายน 2560


4 ต.ค. 2560

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคภาคครัวเรือนในพื้นที่ภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจ เดือนกันยายน 2560

ศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้ดำเนินการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนกันยายน 2560 โดยเก็บแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนภาคครัวเรือน ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 420 ตัวอย่าง พบว่า เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 51.70 เพศชาย ร้อยละ 48.30 ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 35-44 ปี คิดเป็นร้อยละ 31.40  และมีระดับการศึกษาปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 34.40     

01.jpg

ผศ.ดร.วิวัฒน์  จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ รายงานผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคภาคครัวเรือนในพื้นที่ภาคใต้ เดือนกันยายน พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนสิงหาคม ส่วนหนึ่งมาจากรายจ่ายด้านการท่องเที่ยวและภาคบริการปรับตัวเพิ่มขึ้น

MK_Wiwat.jpg

ผศ.ดร.วิวัฒน์  จันทร์กิ่งทอง

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า รายจ่ายที่เกี่ยวข้องด้านอสังหาริมทรัพย์และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เนื่องมาจากแนวโน้มที่ดีของการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ โดยปัจจัยบวกจากการเปิดฤดูการท่องเที่ยวฝั่งอันดามันในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ และจากแนวทางการสนับสนุนนโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย

อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคด้านรายได้จากการทำงาน โอกาสในการหางานทำ/ได้งานใหม่ และรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน ปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องมาจากรายได้ภาคเกษตรที่ลดลง  ราคาสินค้าเกษตรมีความผันผวน รวมทั้งผลผลิตมีจำนวนลดลง เนื่องจากมีฝนตกชุกทั่วทั้งภาคใต้ในช่วงนี้ ประชาชนจึงกังวลในค่าครองชีพและการจับจ่ายใช้สอย

ขณะที่ผลคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และรายได้จากการทำงานจะเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 29.20 และ 35.70  ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นต่อรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 39.10 และ 40.20 ตามลำดับ โดยคาดว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคภาคครัวเรือนในพื้นที่ภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากรายจ่ายด้านการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ

ปัจจัยที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่ามีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันมากที่สุด คือ ค่าครองชีพ คิดเป็นร้อยละ 32.60 รองลงมา คือ หนี้สินครัวเรือน และราคาสินค้า คิดเป็นร้อยละ 27.90 และ 16.90 ตามลำดับ ขณะที่ปัญหาเร่งด่วนที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่ารัฐบาลควรให้ความช่วยเหลือเป็นอันดับแรก คือ ค่าครองชีพ รองลงมา คือ หนี้สินครัวเรือน และ ราคาสินค้า ตามลำดับ