องคมนตรีลงพื้นที่ติดตามโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ


3 พ.ย. 2560

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรี ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สงขลา เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำของโครงการฯ 

IMG_4612.jpg

วานนี้ (2 พ.ย. 60) ที่ สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ 11 สำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พลเอก ธีรชัย นาควานิช องคมนตรี พร้อมคณะฯ เดินทางลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำของโครงการฯ พร้อมรับฟังรายงานความก้าวหน้าจากผู้แทนกรมชลประทาน โดยมี นายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับโดยพร้อมเพรียงกัน

สืบเนื่องจากช่วงเดือนพฤศจิกายน 2531 ได้เกิดอุทกภัยอย่างรุนแรงในพื้นที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจหลักของภาคใต้ และสร้างความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2531 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระราชดำริ สรุปความว่า “...ให้ขุดคลองระบายน้ำขนาดใหญ่ ให้ทำหน้าที่แบ่งน้ำจากคลองอู่ตะเภา หรือช่วยรับน้ำที่ไหลลงมาท่วมตัวอำเภอหาดใหญ่ให้ระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลาโดยเร็ว” 

ดังนั้นในปี 2532 กรมชลประทาน จึงได้ดำเนินการขุดลอกคลองธรรมชาติ จำนวน 4 สาย เพื่อให้สามารถระบายน้ำเร็วขึ้น ต่อมาในปี 2543 เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่สุดของจังหวัดสงขลา สร้างความเสียหายกว่าหมื่นล้านบาท และเมื่อวันที่ 4ธันวาคม 2543 ได้พระราชทานพระราชดำรัส สรุปความว่า “...มีน้ำท่วมภาคใต้ โดยเฉพาะที่อำเภอหาดใหญ่ มีความเสียหายหลายพันล้านบาท ซึ่งถ้าได้ทำแผนที่วางไว้ตั้งแต่ปี 2531 ที่ลงทุนไปนั้นจะได้กลับคืนมาหลายเท่าตัวแล้ว” 

ดังนั้นในปี 2544 กรมชลประทานจึงได้ดำเนินการขุดคลองระบายน้ำเพิ่มเติม อีก 7 สาย โดยมีคลองระบายน้ำ ร.1 ความยาว 21.343 เมตร  เป็นคลองระบายน้ำสายหลักในการผันน้ำจากคลองอู่ตะเภา อ้อมเมืองหาดใหญ่สู่ทะเลสาบสงขลาโดยตรง สามารถระบายน้ำได้ 465 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ส่วนอีก 6สาย เป็นคลองแบ่งน้ำเพื่อช่วยระบายน้ำ และในปี 2553 ได้เกิดน้ำท่วมหาดใหญ่อีกครั้ง กรมชลประทานจึงได้น้อมนำแนวพระราชดำริโดยปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของคลองระบายน้ำ ร.1 และอาคารประกอบ ตามแนวพระราชดำริที่ได้พระราชทานไว้ทำให้ปัจจุบันสามารถบรรเทาปัญหาอุทกภัยในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ และพื้นที่ใกล้เคียงประมาณ  158,000 ไร่ สามารถช่วยระบายน้ำได้เร็วขึ้นประมาณ 1,755 ลูกบาศก์เมตร/วินาที 

นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งสำรองน้ำจืดเพื่อการเกษตรในฤดูแล้งได้ประมาณ10.6 ล้านลูกบาศก์เมตร ต่อมาเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2559  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อคลองระบายน้ำสายที่ 1 (ร.1) โครงการบรรเทาอุทกภัยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ว่า “คลองภูมินาถดำริ” มีความหมายคือ คลองระบายน้ำที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชดำริขุดขึ้น 

ขณะนี้กรมชลประทานได้ขยายผลต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยได้ดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ระยะที่ 2 ด้วยการขยายคลอง ร.1 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำจากเดิม 465 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ให้ระบายน้ำได้ไม่น้อยกว่า 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เริ่มดำเนินการปี 2558 และจะแล้วเสร็จในปี 2562 ปัจจุบันผลงานทั้งโครงการฯ อยู่ที่ร้อยละ25.13 เมื่อดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการน้ำ ช่วยลดระดับความเสียหายจากอุทกภัยช่วงฤดูฝนในพื้นที่เศรษฐกิจของอำเภอหาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงเป็นแหล่งเก็บกักน้ำสำรองในช่วงฤดูแล้งอีกด้วย

IMG_4616.jpgIMG_4614.jpgIMG_4617.jpg

ข่าวโดย สุธิดา พฤกษ์อุดม /ข่าว-ภาพ สวท.สงขลา 2 พ.ย. 60 สวท.สงขลา