ของขวัญปีใหม่ ประกันสังคม เตรียมเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรรายเดือนจาก 400 เป็น 600 บาท


13 พ.ย. 2560

กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม เตรียมมอบของขวัญในปี 2561 เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตรจากเดิม 400 บาท เป็น 600 บาทต่อบุตรหนึ่งคน อายุไม่เกิน 6 ปี

61.jpg

สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตรให้แก่ผู้ประกันตน จากเดิม 400 บาท เป็น 600 บาทต่อบุตรหนึ่งคน ที่อายุไม่เกิน 6 ปี เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ สำนักงานประกันสังคม ประกาศใช้อัตราเงินสงเคราะห์บุตรในอัตรา 400 บาทต่อเดือน มาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2554 เป็นต้นมา โดยไม่มีการปรับเงินเพิ่มมานานหลายปี ปัจจุบันมีผู้ประกันตนรับเงินสงเคราะห์บุตรเฉลี่ย 1,324,848 คนต่อเดือน (ข้อมูล ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2560) จ่ายเงินปีละ 6 พันล้านบาทเศษ 

ผลการศึกษาของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI พบว่า จำนวนบุตรของผู้ประกันตนมีอัตราการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก ขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านอาหารของเด็กเล็กอยู่ที่ 579 – 812 บาทต่อเดือนสูงขึ้นเล็กน้อย หากปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรขึ้นเป็น 600 บาทต่อเดือน ในปี 2561 จะเป็นเงินประมาณการ จำนวน 3,036 ล้านบาท ซึ่งไม่กระทบต่อเสถียรภาพกองทุนประกันสังคมและจะเป็นปริมาณเงินเพิ่มเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ

นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ได้มีมติคณะกรรมการประกันสังคมและที่ปรึกษา (ชุดที่ 13) ครั้งที่ 18/2560 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยที่ประชุมคณะกรรมการฯ มีมติเห็นชอบปรับปรุงแก้ไขกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และอัตราการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีสงเคราะห์บุตร จากเดิม 400 บาทต่อบุตรหนึ่งคน ปรับเพิ่มเป็น 600 บาท ต่อบุตรหนึ่งคน อายุไม่เกิน 6 ปี

สำหรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการของผู้ประกันตนที่จะได้รับสิทธิกรณีสงเคราะห์บุตร ต้องเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือมาตรา 39 โดยจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน และต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ยกเว้น บุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น ซึ่งบุตรมีอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนคราวละไม่เกิน 3 คน 

เว้นแต่ผู้ประกันตนเป็นผู้ทุพพลภาพหรือถึงแก่ความตาย ในขณะที่บุตรมีอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนต่อจนอายุ 6 ปีบริบูรณ์ 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน ทั้งนี้ กฎเกณฑ์ของกฎหมายยังเป็นอุปสรรคอยู่บ้างในบางกรณี เช่น ผู้ประกันตนเมื่อออกจากงานสิทธิสงเคราะห์บุตรจะขาดไป ทั้งที่การออกจากงานเพราะถูกเลิกจ้างเป็นความเดือดร้อนและบุตรก็ยังมีค่าใช้จ่าย ดังนั้น คณะกรรมการฯ จึงมีมติให้ปรับปรุง แก้ไขกฎหมาย ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งดำเนินการก่อนประกาศใช้ต่อไป

นอกจากนี้ คณะกรรมการประกันสังคมและที่ปรึกษา (ชุดที่ 13) ยังได้มีมติให้สำนักงานประกันสังคม เร่งดำเนินการในเรื่องดังกล่าวให้เสร็จสิ้น และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2561 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ผู้ประกันตนในปี 2561 จะเห็นได้ว่า การปรับเพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร มีความสอดคล้องกับผลการศึกษาด้านอาหารเด็กเล็กที่มีอัตราสูงขึ้นและสอดคล้องกับระบบเศรษฐกิจในปัจจุบัน อันจะนำไปสู่การยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยรวมของประเทศอย่างยั่งยืน

ที่มา : Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย