ตัวแทน กฟผ. ยืนยันไม่มีการรื้อถอนกุโบว์หรือมัสยิดในพื้นที่โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา


22 ก.พ. 2559

เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยตัวแทน กฟผ. แถลงยืนยันไม่มีการรื้อถอนกุโบว์หรือมัสยิดในพื้นที่โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา เพียงแต่มีกลุ่มคนบางส่วนนำไปขยายความปลุกระดมสร้างความขัดแย้งให้กับคนในพื้นที่

q6.jpg

วันที่ 22 ก.พ. 59 ที่มัสยิดกลาง จ.สงขลา พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยประธานและรองประธานประจำคณะกรรมการอิสลามประจำ 5จังหวัดชายแดนใต้ ประกอบด้วย จ.สงขลา จ.สตูล จ.ปัตตานี จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส รวมทั้ง นายพล คงเสือ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า 3 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ร่วมประชุม และแถลงชี้แจงกรณีข้อวิตกกังวลของชุมชนมุสลิมในพื้นที่ ม.4 บ้านคลองประดู่ อ.เทพา จ.สงขลา เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายกุโบว์ หรือสุสาน รวมทั้งมัสยิด ซึ่งติดอยู่ในแนวเขตพื้นที่สำรวจโครงการพัฒนาโรงฟ้าถ่านหินเทพา และมีบุคคลบางกลุ่มนำไปขยายความจนเกิดเป็นประเด็นความขัดแย้งใหญ่โตอยู่ในขณะนี้

พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทางคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ได้ตั้งคณะกรรมการทำงานเข้าร่วมติดตาม และตรวจสอบเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ร่วมกับ กฟผ. ซึ่งจากการหารือร่วมกันเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า จะไม่มีการรื้อถอนกุโบร์หรือมัสยิดที่ตั้งอยู่ในแนวเขตพื้นที่สำรวจโครงการพัฒนาโรงฟ้าถ่านหินเทพาอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นเรื่องที่ผิดกับหลักการของศาสนาอิสลาม และการก่อสร้างหรือดำเนินโครงการใดๆก็ต้องให้สามารถอยู่ร่วมกับคนในพื้นที่ได้ด้วย ซึ่งความขัดแย้ง รวมทั้งกระแสการการต่อต้านที่เกิดขึ้นนั้น มาจากบุคคลบางกลุ่มที่เอาประเด็นที่ละเอียดอ่อนดังกล่าวไปขยายความ และนำชื่อบุคคลระดับสูงในแวดวงศาสนามาทำการแอบอ้างให้ดูน่าเชื่อถือ เพื่อปลุกระดมคนเท่านั้น

ด้าน นายพล คงเสือ ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า 3 กฟผ. กล่าวด้วยว่า ในพื้นที่โครงการเกือบ 3 พันไร่ มีกุโบร์และมัสยิดอยู่ในแนวเขตประมาณ 3 แห่ง ซึ่งทาง กฟผ. ไม่ได้มีแนวคิดที่จะรื้อถอนแต่อย่างใด และการก่อสร้างโครงการก็ไม่ได้ใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วเป็นตัวโรงไฟฟ้าทั้งหมด เพราะ โครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นต้องอยู่ร่วมกับคนในชุมชนได้ และทาง กฟผ. ยังยินดีที่จะร่วมอนุรักษ์ศาสนสถานที่สำคัญ และมีคุณค่าทางจิตใจเหล่านี้เอาไว้อย่างยุ่งยืน ทั้งนี้ทาง กฟผ.เคยทำหนังสือผู้นำศาสนาทุกแห่งในพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 58 ที่ผ่านมา

q8.jpgq2.jpgq1.jpgq4.jpg