บทความน่ารู้กับ ธปท.ใต้ ตอน ไขข้อข้องใจ SMEs กับการมีบัญชีเดียว
ไขข้อข้องใจ SMEs กับการมีบัญชีเดียว
การจัดทำบัญชี ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs บริหารเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถใช้วิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของการดำเนินงานได้ ต่อยอดไปสู่การวางแผนกิจการอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ดี ยังคงมีผู้ประกอบการ SMEs คิดว่าบัญชีที่สะท้อนผลการดำเนินงานที่แท้จริงมีผลต่อการชำระภาษี ที่ผ่านมาจึงจัดทำบัญชีหลายชุดเพื่อผลประโยชน์ทางภาษี
ด้วยปัญหาดังกล่าว รัฐบาลจึงมีโครงการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs จดแจ้งบัญชีเดียวกับกรมสรรพากร โดยได้ประกาศพระราชกำหนดการยกเว้นและสนับสนุนการปฏิบัติการเกี่ยวกับภาษีอากร ตามประมวลรัฎษากร พ.ศ.2558 เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2559 มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการจัดทำบัญชีให้สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริงของกิจการ ซึ่งจะช่วยสะท้อนสภาพกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้รัฐบาลสามารถวิเคราะห์และวางแผนในการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการ SMEs ได้ตรงต่อความต้องการ เพิ่มศักยภาพทางการผลิตและการค้า รวมถึงสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขัน
“SMEs บัญชีเดียว” คือ การที่ผู้ประกอบการ SMEs ทำบัญชีถูกต้องสะท้อนฐานะที่แท้จริงของกิจการเพียงบัญชีเดียว จากเดิมที่ผู้ประกอบการ SMEs บางราย มีการจัดทำหลายบัญชีเพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน อาทิ เพื่อการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน เพื่อการส่งสรรพากรสำหรับการคำนวณภาษี และเพื่อเป็นงบภายในสำหรับเจ้าของกิจการ
ข้อดีของการมีบัญชีเดียว สำหรับผู้ประกอบการ SMEs
1. ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนทราบผลการดำเนินงานและฐานะที่แท้จริงของกิจการ
2. สามารถเป็นเครื่องมือควบคุมต้นทุน ค่าใช้จ่าย และบริหารกำไรได้ ทำให้การบริหารเงินเป็นไปด้วยความคล่องตัวมากขึ้น รวมถึงสามารถวางแผนภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับผู้ประกอบการ SMEs ในการทำธุรกรรมกับสถาบันการเงิน
4. สนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบได้ง่ายขึ้น และได้รับต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลง เนื่องจากปัจจุบันสถาบันการเงินต่างมีนโยบายสนับสนุนสินเชื่อให้แก่ SMEs ที่มีการจัดทำบัญชีเดียว โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์ อาทิ ดอกเบี้ยเงินกู้ต่ำลง ระยะเวลาในการขออนุมัติสินเชื่อรวดเร็วขึ้น หรือได้ลดค่าธรรมเนียมวิเคราะห์เงินกู้
ความเสี่ยงที่ผู้ประกอบการ SMEs ไม่เข้าร่วมมาตรการบัญชีเดียว คือ
1. ลดโอกาสและช่องทางในการขอสินเชื่อจากธนาคาร เนื่องจากตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 ธนาคารจะพิจารณาปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ SMEs โดยวิเคราะห์ข้อมูลจากบัญชีที่ใช้ยื่นต่อกรมสรรพากรเท่านั้น ทำให้ผู้ประกอบการ SMEs อาจต้องหาแหล่งเงินกู้นอกระบบที่มีต้นทุนทางการเงินสูงกว่า
2. เพิ่มโอกาสที่จะถูกตรวจสอบจากกรมสรรพากร เนื่องจากการไม่เข้าร่วมโครงการบัญชีเดียว อาจถูกพิจารณาว่าต้องการหลบเลี่ยงหรือปิดบังผลประกอบการที่แท้จริง
จะเห็นได้ว่า การจัดทำบัญชีชุดเดียวมีประโยชน์ต่อการดำเนินกิจการเป็นอย่างมาก และยังเป็นหลักเกณฑ์ที่ธนาคารจะบังคับใช้เพื่อการขอสินเชื่อตั้งแต่ปี 2562 นอกจากนี้ ถือเป็นการสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการนำระบบ e-Payment มาใช้ ซึ่งจะมีส่วนส่งเสริมทำให้การทำธุรกรรมและการบริหารเงินของผู้ประกอบการ SMEs เป็นไปอย่างรวดเร็ว คล่องตัว และเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลสำเร็จต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
ผู้จัดทำ : นางสาวญาณิศรา ศตะรัต