ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ด้านภาวการณ์ทางสังคม เดือนมกราคม 2561


5 ก.พ. 2561

ดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ด้านภาวการณ์ทางสังคม เดือนมกราคม 2561

ศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้ดำเนินการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ด้านสภาวการณ์ทางสังคมในเดือนมกราคม 2561โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวัดการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางสังคม และการเปลี่ยนแปลงของความสุขโดยรวมของประชาชนในภาคใต้ เก็บแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 420 ตัวอย่าง พบว่า เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 56.70 เพศชาย ร้อยละ 43.30 ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 25-34 ปี คิดเป็นร้อยละ 30.40 และมีระดับการศึกษาปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 37.90

002.jpg

ผศ.ดร.วิวัฒน์  จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ รายงานผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ด้านภาวการณ์ทางสังคม เดือนมกราคม 2561 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวม ด้านภาวการณ์ทางสังคมปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2560

ดัชนีความเชื่อมั่นด้านภาวการณ์ทางสังคม ในเดือนมกราคม พบว่า ความสุขในการดำเนินชีวิต ฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) ความมั่นคงในอาชีพ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และการแก้ปัญหา     ยาเสพติด มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจาก ปัจจัยบวกจากราคาผลิตผลการเกษตรปรับตัวสูงขึ้น รายได้จากภาคเกษตรจึงเพิ่มขึ้นด้วย ประกอบกับวันหยุดยาวปีใหม่ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางท่องเที่ยว และพักผ่อนกับครอบครัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งการออกนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศของรัฐบาลอีกด้วย

อย่างไรก็ตามเสถียรภาพทางการเมืองและการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความเชื่อมั่นลดลง เนื่องจากข่าวการตรวจสอบทรัพย์สินของรัฐมนตรีและความกังวลการขยายเวลาเลือกตั้งของรัฐบาลออกไปอีกด้วย อีกทั้งเหตุการณ์ระเบิดหน้าตลาดสดพิมลชัย อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นส่วนหนึ่งทำให้การแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความเชื่อมั่นลดลงด้วย

ขณะที่ผลคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าความสุขในการดำเนินชีวิต และฐานะการเงิน (รายได้หักรายจ่าย) ดีขึ้น คิดเป็นร้อยละ 32.60 และ 30.70 ตามลำดับ นอกจากนี้การแก้ปัญหายาเสพติด และเสถียรภาพทางการเมืองดีขึ้น คิดเป็นร้อยละ 34.90 และ 33.80 และปัจจัยที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่ามีผลกระทบต่อความสุขในการดำเนินชีวิตในปัจจุบันมากที่สุด คือ ราคาพืชผลทางการเกษตรคิดเป็นร้อยละ 35.70 รองลงมา คือ ราคาสินค้า คิดเป็นร้อยละ 27.30