คุยภาษาเดียวกันใครๆก็อยากมาเที่ยวอีกที่สงขลา ประสบการณ์ตรงจากนิสิต ม.ทักษิณ


20 มี.ค. 2561

คุยภาษาเดียวกันใครๆก็อยากมาเที่ยวอีกที่สงขลา ประสบการณ์ตรงจากนิสิต ม.ทักษิณ

สวัสดีค่ะ ดิฉันนางสาวมัยมูนี  แวโดยี นิสิตวิชาเอกภาษามลายู  เป็นนิสิตชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ หลักสูตรภาษามลายู เป็นหนึ่งในนิสิตที่กำลังฝึกสหกิจศึกษาที่สำนักงานการท่องเที่ยวและการกีฬาจังหวัดสงขลา ตอนนี้ระยะเวลาการฝึกสหกิจศึกษาของดิฉันก็ผ่านไปประมาน 2 เดือนกว่าๆแล้วค่ะ

mai introduce.jpg

ดิฉันได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวบริเวณแหลมสมิหลา โดยการเข้าไปทักทายพูดคุยกับนักท่องเที่ยว ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ให้ข้อมูลการเดินทางแก่นักท่องเที่ยวและแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงเมืองสงขลา เช่น ย่านเมืองเก่า โรงสีแดง สตรีทอาร์ต นางเงือก หัวพญานาค และอื่นๆอีกหลายแห่ง โดยนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวบริเวณแหลมสมิหลาส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย 

ในการปฏิบัติงานนั้น เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องมีความพร้อมอยู่เสมอเพราะต้องออกไปพบปะกับนักท่องเที่ยวโดยตรงและเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องสามารถสื่อสารภาษาที่สองกับนักท่องเที่ยวได้ เช่น ภาษาจีน ภาษามลายู ภาษาอังกฤษ

นิสิตฝึกสหกิจก็เช่นกันค่ะ ต้องพยายามปรับตัวให้มีความพร้อมอยู่เสมอ ทั้งเรื่องสุขภาพ และเรื่องภาษา  โชคดีมากเลยค่ะที่ดิฉันได้ฝึกสหกิจศึกษาที่สำนักงานการท่องเที่ยวและการกีฬาจังหวัดสงขลาแห่งนี้ เพราะดิฉันสามารถนำความรู้ที่ได้ในห้องเรียนมาต่อยอดใช้ประโยชน์ในชีวิตการทำงานและช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้ ดิฉันได้พูดคุย ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทาง และอธิบายเรื่องราวต่างๆเป็นภาษามลายูให้แก่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียฟังได้อย่างเข้าใจค่ะ   มีเหตุการณ์หนึ่งที่ดิฉันอยากเล่าให้ฟังค่ะ คือ มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียกลุ่มหนึ่งหลังจากเขาพูดคุยกับดิฉันเสร็จ เขาได้บอกความในใจกับดิฉันว่า

“รู้สึกดีใจมากเมื่อรู้ว่ายังมีชาวสงขลาบางส่วนที่สามารถพูดภาษามลายูและภาษาอังกฤษได้ รู้สึกสบายใจและรู้สึกอยากมาเที่ยวเมืองสงขลาอีก... ”

 เมื่อดิฉันได้ฟังประโยคนี้จบ ดิฉันรู้สึกมีความสุขมากที่ได้ทำให้นักท่องเที่ยวมีความสุขเมื่อมาเยือนเมืองสงขลา  ทำให้ดิฉันคิดในใจว่า “ ภาษาเป็นสิ่งที่สำคัญและมีความยิ่งใหญ่มากต่อมนุษย์มากนะ เพราะภาษาทำให้มนุษย์เกิดความรู้สึกดีๆระหว่างกัน ดังเช่นการพูดคุยภาษามลายูของดิฉันกับนักท่องเที่ยว และดิฉันคิดอีกว่า หากมนุษย์ไม่รู้ภาษา มนุษย์จะมีความเจริญได้อย่างไร เพราะทุกหน้าที่การงานล้วนต้องใช้ภาษาเป็นสื่อกลางในการสื่อสารกันทั้งนั้น เพราะมนุษย์มีภาษาและรู้จักใช้ภาษา มนุษย์จึงมีความเจริญมาจนถึงทุกวันนี้” 

คิดเหมือนดิฉันกันไหมคะ?

mai gate.jpgmai tourist.jpgmai volunteer for tourist.jpgmai ภาคี.jpgmalay mermaid.jpg