นิสิต ม.ทักษิณ เผย ความคิดฉันเปลี่ยนหลังฝึกสหกิจศึกษา


23 มี.ค. 2561

นิสิต ม.ทักษิณ เผย ความคิดฉันเปลี่ยนหลังฝึกสหกิจศึกษา

ดิฉันฝึกประสบการณ์การสหกิจศึกษาที่สำนักงานประสานงานชายแดนไทย-มาเลเซีย ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่๔ สิ่งที่ดิฉันได้รับคือประสบการณ์การการทำงานจริงอย่างเต็มรูปแบบของหน่วยงานราชการ ไม่เหมือนกับสิ่งที่ดิฉันคิดไว้ก่อนเลยว่าการมาฝึกครั้งนี้คงไม่เหนื่อยมาก แต่เมื่อเราเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงาน  เราก็คือบุคคลลากรคนหนึ่งของหน่วยงานที่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบและได้รับมอบหมายงานเหมือนคนอื่น และต้องทำให้เต็มที่กับงานที่ได้รับมอบหมายใช่ไหมคะ

มาช่วงแรกๆเราอาจไม่ค่อยคุ้นชินกับความเป็นอยู่ของทหาร ที่มีความตรงต่อเวลาในการทำงานเป็นอย่างมาก ในสัปดาห์แรกของการทำงานหัวหน้าอาจจะไม่ค่อยมอบหมายงานให้ในการทำงานเพราะอาจเกรงว่านิสิตฝึกงานอาจทำงานผิดพลาด ซึ่งหน่วยงานแห่งนี้เราจะทำงานผิดพลาดไม่ได้ หากผิดพลาดแค่จุดเดียวต้องแก้งานชิ้นนั้นใหม่หมดและตรวจอย่างละเอียดอีกรอบ  งานชิ้นแรกที่ฉันได้รับมอบหมายคือการทำเอกสารเกี่ยวกับวันทวีคูณข้าราชการ (เวลาการทำงานของราชการทหารค่ะ มีประโยชน์เมื่ออกจากราชการ นำมาคำนวณคิดเป็นเม็ดเงินบำเหน็จ หรือบำนาญ) ซึ่งตอนนั้นมันทำให้ดิฉันเครียดมากกลัวจะทำผิดพลาดและเกิดความเสียหาย ได้แต่บอกตัวเองถ้าเราไม่ลองเราก็ไม่รู้รสชาติของการทำงานแล้วเราจะมาฝึกเพื่ออะไร ซึ่งงานเอกสารชิ้นนี้ มันทำให้ดิฉันท้อมากต้องแก้ประมาณสี่ห้าครั้งกว่าจะผ่านไปได้  แต่แล้วงานชิ้นนี้ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าเราก็สามารถทำงานได้แค่เราพยายามทำ ทำอย่างเต็มที่ให้ผู้ที่ดูแลเราเชื่อใจเราในการทำงานมากยิ่งขึ้น  ต่อจากนั้นก็ให้รับผิดชอบดูแลงานเอกสาร รับโทรศัพท์จากผู้ที่มาประสานแทน เมื่อเจ้าหน้าที่ห้องธุรการไม่อยู่

ทุกวันอังคารจะเป็น Coffee day จะมีการรับประทานอาหารเช้าร่วมกันทหารมาเลเซียและทหารไทยมีการพูดคุยการสนทนาการบนโต๊ะอาหารแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน ซึ่งดิฉันก็ได้เข้าร่วมและแนะนำตนเองให้ทหารมาเลเซียให้รู้จก จากการสังเกตของดิฉันเห็นได้ว่าในการพูดคุยสนทนากันจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักในการสนทนา  ทำให้ดิฉันเห็นถึงความสำคัญตรงนี้ว่าเราควรจะมีคลังคำภาษาอังกฤษ

ชีวิตความเป็นอยูที่นี้จะใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย อยู่เหมือนครอบครัวเดียวกัน มีความอบอุ่น ถึงแม้ว่าใครหลายๆคนจะคิดว่าทำงานร่วมกับทหารคงจะมีความเกร็งและความเครียดแต่ที่นี้ไม่มีเลย อยู่กินอย่างมีความสุขและอบอุ่น ไม่ถือตัวถึงแม้ว่าบางครั้งจะมีนายทหารชั้นผู้จะมาเยี่ยมเยียนบ้าง แต่ก็ทำให้เรามีความสุขกับการทำงานที่แห่งนี้  ที่แห่งนี้ทำให้เราได้ใช้ภาษามลายูอย่างเต็มที่ทั้งในด้านการพูด การแปล และการเขียน สิ่งที่ได้เรียนมาสามารถนามาใช้ในชีวตการทำงานอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ก็ยังมีภาษาอังกฤษที่เราต้องใช้อีกหนึ่งภาษาที่ดิฉันคิดว่าเราควรมีกลางคำไว้บางยิ่งดี จึงเรียนรู้ภาษาอังกฤษ  บางครั้งก็จะมีพี่ๆที่เก่งภาษาอังกฤษค่อยทดสอบภาษาอยู่เรื่อยๆ

ลักษณะงานของดิฉันจะไม่ประจำแผนกใดแผนกหนึ่ง  เมื่อครบสามสิบหกวันก็จะมีการเปลี่ยนฝ่ายทำงาน ฝ่ายธุรการและกำลังพลคือฝ่ายแรกที่ดิฉันได้ฝึกประสบการณ์  ในห้องนี้ก็จะมีแต่การทำงานเอกสารที่ได้รับจากฝั่งไทยและฝั่งมาเลเซีย มีทั้งจดหมายและแฟกซ์ ก่อนที่เราจะส่งให้ฝ่ายอื่นๆหรือหัวหน้าเราต้องตรวจสอบก่อนที่จะส่งเอกสาร  นอกจากนี้ก็จะทำหน้าที่ติดต่อประสานงานกับทหารมาเลเซียที่ประจำอยู่ที่สำนักงานเมื่อมีเอกสารด่วนถึงประเทศมาเลเซีย   ฝ่ายที่สองที่ดิฉันได้ปฏิบติงานคือส่วนปฏิบติการ ในการทำงานตรงนี้เราจะคอยช่วยรับโทรศัพท์ผู้ที่ติดต่อประสานงานมาเกี่ยวกับการประชุมหรือจะมีหน่วยงานราชการเดินทางไปประเทศมาเลเซียและค่อยส่งแฟกซ์ไปยังประเทศมาเลเซีย  และติดตามหนังสือว่าถึงหรือยัง นอกจากนี้ก็จะมีการช่วยพี่ ๆ  ทำเอกสารการประชุมและคอยต้อนรับหน่วยงานจากประเทศมาเลเซีย เมื่อมีการประชุม และคอยช่วยเหลือเมื่อเขามีปัญหา  จากการพบเจอกับทหารมาเลเซียทำให้เราพัฒนาด้านการพูดภาษามลายูมากยิ่งขึ้น  เมื่อไม่เข้าใจคำบางคำ ดิฉันก็จะสอบถามเพื่อนที่มีความรู้ภาษามลายูมากกว่าดิฉันว่าจะใช้คำว่าอะไรในการสนทนาในครั้งนี้

และฝ่ายสุดท้ายของการฝึกประสบการณ์คือส่วนข่าวและปฏิบัติการจิตวิทยา  ฝ่ายนี้จะทำงานเกี่ยวกับข่าวและประชาสัมพันธ์   สิ่งที่ต้องปฏิบัติคือการแปลข่าวที่มาจากประเทศมาเลเซีย  และตรวจสอบคำผิด ก่อนจะส่งไปยังหน่วยงานต่างๆที่อยู่ในประเทศไทยที่เกี่ยวข้องโดยตรง

จากการฝึกสหกิจที่นี่ ทำให้ดิฉันรู้สึกผูกพันกับสถานที่แห่งนี้ ที่มีการอยู่ร่วมกันแบบครอบครัว เมื่อมีปัญหาไม่สบายใจเราก็สามารถปรึกษาได้  พี่ๆที่นี่ใจดี  ทุกคนคอยช่วยคอยสอนงานเรา จนกว่าเราจะเป็นงาน  ทำให้เรารับรู้ชีวิตการทำงานอย่างแท้จริง ทำให้เราเป็นคนรอบคอบมากขึ้นในการทำงาน  เป็นประสบการณ์ที่ได้รับนอกเหนือจากในห้องห้องเรียนที่ยากจะหาได้

onjira alone.jpgonjira conference.jpgonjira lunch.jpg

เล่าเรื่องโดย นางสาวอรจิรา  หลักสูตรภาษามลายู คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.ทักษิณ สงขลา