รพ.ม.อ. พร้อมเป็น Smart Hospital เปิดศูนย์ตรวจสุขภาพ ครบวงจร Check up Center
โรงพยาบาลสงขลานครินทร์เปิดตัวการเป็น Smart Hospital พร้อมจัดพิธีเปิดศูนย์ตรวจสุขภาพ (Check up Center) ร่วมดูแล ภาวะสุขภาพของคนใต้ และในงานก็มีการส่งมอบระบบ Smart Hospital / Smart Health และตู้คิวอัจฉริยะ ที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาล รวมไปถึงโอกาสในอนาคตสู่การพัฒนาระบบให้ผู้ป่วยสามารถจองคิวได้แม้จะอยู่ที่ใดก็ตาม
วันนี้ ( 1 กุมภาพันธ์ 2562) ณ ศูนย์ตรวจสุขภาพ ชั้น B อาคารพระบรมราชชนก (อาคาร 100 ปี) มีการจัดพิธีเปิดศูนย์ตรวจสุขภาพ (Check up Center)พร้อมพิธีส่งมอบระบบ Smart Hospital / Smart Health และตู้คิวอัจฉริยะจากทีมผู้พัฒนาระบบ บริษัท MY HEALTH GROUP ที่ร่วมกับธนาคารกสิกรไทย คิดค้นแอพลิเคชั่นที่เรียกว่า มายเฮลท์เฟิร์ส (MY HEALTH FIRST) และตู้คิวอัจฉริยะ ที่จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาล รวมไปถึงโอกาสของการพัฒนาระบบให้ผู้ป่วยสามารถจองคิวได้แม้จะอยู่ที่ใดก็ตาม โดยมี รองศาสตราจารย์นายแพทย์พุฒิศักดิ์ พุทธวิบูลย์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ , นพ.เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และแกขผู้มีเกียรติจำนวนมาก ร่วมงานในครั้งนี้
สำหรับศูนย์ตรวจสุขภาพ (Check up Center) นี้ จัดตั้งขึ้นเพื่อเพิ่มทางเลือก ในการ “ร่วมดูแล” ภาวะสุขภาพ มุ่งหวังคัดกรองและควบคุมความเสี่ยงต่อสุขภาพตามเพศ และวัย ในผู้รับบริการอย่างองค์รวม มีการสอบถามความเสี่ยง การประเมินความเสี่ยงด้วยกระบวนการที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ หากพบความผิดปกติจะได้รับการส่งต่อเพื่อปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง ที่คลินิกบริการพิเศษ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โดยศูนย์ดังกล่าวเปิดให้บริการทางด้านการตรวจสุขภาพ ตามโปรแกรมต่างๆ นับตั้งแต่การตรวจในโปรแกรมเริ่มต้น ไปจนกระทั่งโปรแกรมสำหรับผู้ที่ต้องการตรวจเช็คร่างกายแบบละเอียด ซึ่งการให้บริการของศูนย์ตรวจสุขภาพจะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้รับบริการที่ต้องการความรวดเร็ว เพราะศูนย์ดังกล่าวจะเป็นส่วนให้บริการที่แยกออกจากระบบการให้บริการเดิม และมีการพัฒนาระบบการให้บริการในด้านต่างๆ เพื่อพัฒนาสู่การเป็น SMART HOSPITAL
นอกจากนั้นทางโรงพยาบาลยังมีความร่วมมือกับบริษัท Capsule Creation พัฒนา application myHealthFirst ที่พัฒนาโดย ทีมแพทย์และวิศวกร จาก มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รพ.กรุงเทพหาดใหญ่ และ รพ.หาดใหญ่ ภายใต้แนวคิดที่ว่า "เราอยากให้คนไทยทุกคน มีประวัติการรักษา/ตรวจสุขภาพ ยาที่ใช้ประจำ/แพ้ยา และสรุปผลการรักษา/ผ่าตัดจาก รพ. ติดตัวไปทุกที่ เพราะเป็นข้อมูลสำคัญในภาวะเร่งด่วนฉุกเฉิน หรือเปลี่ยนสถานบริการพยาบาล" และยังเป็น "แอปพลิเคชั่นตัวแรกของโลก ที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(A.I. in Health Care) มาช่วยดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดยประเมินการกินอาหาร-ออกกำลังกาย(Lifestyle) ผลการตรวจเลือด-ตรวจร่างกายมาสร้างเป็นคำแนะนำสุขภาพให้ดีขึ้น แบบเฉพาะบุคคล"
โดยแอปพลิเคชั่นดังกล่าว สามารถบันทึกอาหารที่รับประทาน คำนวณพลังงานแคลอรี่จากอาหาร บันทึกการออกกำลังกายแบบอัตโนมัติผ่านทาง โทรศัพท์มือถือ/สมาร์ทโฟน โดยใช้คำสั่งเสียงหรือการถ่ายภาพ มีคำแนะนำจากระบบ A.I. และแพทย์ สามารถบันทึกบันทึกข้อมูลผลตรวจรักษา แบบอัตโนมัติจากระบบปฏิบัติการ ของโรงพยาบาล (HIS) ช่วยให้การใช้งานของเจ้าหน้าที่ รพ.สะดวกมากขึ้น ซึ่งมีเป้าหมายดูแลสุขภาพ 2 กลุ่มคน คือ
1.ดูแลสุขภาพของคนที่ยังไม่ป่วย และกำลังจะป่วย ไม่ให้เป็นโรค แนะนำให้สุขภาพดีไปเรื่อยๆ
2.ดูแล และบันทึกการรักษาของคนที่ป่วยแล้ว ส่งเสริมให้ปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องทานยาสม่ำเสมอ สุขภาพแข็งแรงขึ้น ลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรค ตลอดจนมีประวัติติดตัว online ไว้ยามฉุกเฉิน
ซึ่งคณะทำงานหวังเป็นอย่างยิ่งว่า แอปพลิเคชั่น "myHealthFirst" The Ultimate PHR จะเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งในด้านการดูแลสุขภาพของประชาชน รวมถึงการนำไปใช้กับวงการสาธารณสุขของประเทศไทย เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล Health Care Thailand 4.0 ในการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้กับคนไทยทุกคนต่อไป