​พรรคประชาธิปัตย์ กับคำถามว่า...เกิดอะไรขึ้นที่สนามเลือกตั้งภาคใต้


25 มี.ค. 2562

การเลือกตั้ง 2562 หลายคนฟันธงว่า เพื่อไทย พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ น่าจะบี้กันมาแต่เมื่อผลออกมา พรรคประชาธิปัตย์กลับกลายเป็นว่านอกจากเป็นพรรคต่ำ100 แล้วยังร่วงเป็นอยู่อัน5 พ่ายทั้งภูมิใจไทย อนาคตใหม่ ในพื้นที่ภาคใต้ประชาธิปัตย์เสียหลายที่นั่งมากถามว่าเกิดอะไร เฉพาะสนามจังหวัดสงขลา 8 ที่นั่งเหลือ 3 เสียไป 5 ลองมาวิเคราะห์กันดูว่าเพราะอะไร


ในฐานะแฟนพันธุ์แท้คนหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์ กล้าพูดเลยว่าในสมัยรัฐบาลชวน ผมจำชื่อรัฐมนตรีและสส.พรรคนี้ได้เกือบทุกคน แต่หลังจากยุคนายชวน ต้องบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ เริ่มก้าวพลาดมาโดยตลอด อภิสิทธิ์ หนุ่มหล่อ คารมดี มีหลักการ ไม่น่าเชื่อว่าเมื่อมาเจอการเมืองแบบนี้ถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว แกนนำพรรคที่เคยเป็นแม่เหล็กดึงพื้นที่สื่อได้ทุกครั้งที่พูดแทบไม่มีเลย โฆษกพรรคผู้คอยตอบคำถามสร้างชื่อให้พรรคหลังจากองอาจ คล้ามไพบูลย์ ก็จำไม่ได้เลยว่าเป็นใคร

มาพูดเรื่องใกล้ตัวในสนามจังหวัดสงขลากันบ้าง พื้นที่ภาคใต้ถิ่นที่ได้ชื่อว่าเมืองหลวงของพรรค สส.สงขลาที่ไม่ใช่ประชาธิปัตย์ที่จำได้คือนายสุรใจ ศิรินุพงษ์ จากพรรคความหวังใหม่ ที่เหลือครอบครองโดยพรรคเดียวมาตลอดตั้งแต่ปี 35 จนถึงปัจจุบัน สส.สงขลาที่โดดเด่นที่สุดในสภาและในพื้นที่สื่อก็มี ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ถือว่าเด่นสุดและเป็นขวัญใจวัยรุ่นมาก จำได้ว่าครั้งหนึ่ง สส.ไตรรงค์ อภิปรายพร้อมบอลรายการใหญ่พี่ชายผู้บ้าบอลของผมยังยอมไม่ดูบอลมาอภิปรายเลย กับถาวร เสนเนียม วิรัตน์ กัลยาศิริ รวมถึงศิริโชค โสภา ก็ถือว่ามีบทบาทพอสมควร

แต่ถ้าถามหาบทบาทในพื้นที่ถามชาวบ้านดูได้เลยว่า สส.คนไหนเข้าถึงได้ลงถึงพื้นที่แบบจริงๆจังๆ บ้าง นอกจากอดีตสส.ประพร เอกอุรุ แล้วแทบไม่มีสส.คนไหนเดินเข้าหาชาวบ้านเลย และยังมีเรื่องราวความขัดแย้งภายในพรรคให้ชาวบ้านได้ติดตามข่าวกันมาตลอด ในช่วงที่รัฐบาลคสช.เข้ามาเป็นรัฐบาลกว่า 5 ปี เป็นเวลาให้พรรคได้เตรียมตัว ได้ทบทวนได้วางแผนลงสนามเลือกตั้ง แต่กลับกลายเป็นมีแต่ความขัดแย้งภายในพรรค อย่างที่บ้านเราเมื่ออดีตสส.ประพร เสียชีวิตการวางตัวผู้สมัครก็มีความขัดแย้งกันแล้ว สส.ถาวร และนายกนิพนธ์ ต่างเดินหน้าผลักดันคนของตัวเองกันแบบสุดลิ่มทิ่มประตู เมื่อหวยเขต5 ออกที่นายกชาย นายกนิพนธ์กลับไปยึดเขต1 ให้ลูกชายแทนเพิ่มความขัดแย้งเข้าไปอีก พอถึงวันรับสมัครเลือกตั้งเขต3 กลับมาขัดแย้งกันอีก นายกไพร ลาออกจากนายกหาดใหญ่แต่ลงไม่ได้ สุดท้ายวิรัตน์ สส.เก่าก็ลงอีกทั้งที่ไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่

นอกจากตัวบุคคลแล้วแนวทางและนโยบายพรรคก้มีส่วนสำคัญในการตัดสินใจของชาวบ้านรอบนี้ การเมืองบ้านเรามี 2 ขั้วชัดเจนคือ เอากับไม่เอาลุงตู่ ขระที่พรรคประชาธิปัตย์ตอนแรกเหมือนจะเอาแต่ตอนหลังกลับไม่เอา เลยเป็นปัจจัยให้เลือกง่ายขึ้นว่าจะเอาฝั่งไหน ฝั่งไม่เอาทักษิณเลยเลือกเทคะแนนมาให้ลุงตู่ ฝ่ายไม่เอาลุงตู่ก็เลือกเทคะแนนให้ตระกูลเพื่อและอนาคตใหม่ที่มาแรงโดนใจคนรุ่นใหม่ ไล่ดูทีละเขต

เขต1 สรรเพชญ บุญญามณี พ่ายวันชัย ปริญญาศิริ พปชร. มวยใหม่หัดชกที่มาจากแรงผลักของพี่เลี้ยงล้วนๆ การที่นายกนิพนธ์ นำเรื่องไพรมารี่โหวตเอาลูกชายมาเสียบแทนเจือ ราชสีห์ เจ้าของพื้นที่เก่าว่ากัว่าทำให้หลายคนไม่สบายใจ ไม่พอใจจนย้ายไปหนุนคนอื่นมีทั้งแบบออกหน้าและอยู่ข้างหลัง ซึ่งคะแนนเหล่านี้ถูกเทมาที่วันชัย ปริญญาศิริ พรรคพลังประชารัฐ เป้นคนที่พรรคหวังทุ่มทั้งกระสุน สร้างทั้งกระแส จนชนะได้สำเร็จ เที่ยวนี้ถ้าปชป.เป็นเจือ ถึงแพ้ก็คะแนนคงไม่ห่างขนาดนี้ หากสรรเพชญ รักในถนนการเมืองจริงเขาต้องพิสูจน์ความตั้งใจของตัวเองตั้งแต่สนามท้องถิ่นเพื่อที่จะได้ลบครหาทายาทการเมือง ซึ่งต้องรอดูว่าหลังจากนี้เขาจะเลือกเดินแบบไหน

เขต2 ภิรพล ลาภาโรจน์กิจ ผู้รับช่วงต่อจากพ่อลาภศักดิ์ พ่ายศสตรา ศรีปาน พปชร. ว่ากันว่าในสมัยพ่อไม่มีเป็นข่าวหรือมีผลงานแล้วในสมัยลูกหนักกว่าอีก ภิรพล เป็นคนรุ่นใหม่จบนอกถ้าได้คุยกับเขาจะเห้นว่าเขามีวิสัยทัศน์ดีมากแต่ในถนนการเมืองเก่งอย่างเดียวไม่พอ การเข้าถึงพื้นที่ เข้าถึงชาวบ้าน มีชื่อในหน้าสื่อบ้างจะดีกว่าแต่ที่ผ่านมาแม้แต่เฟสบุ๊คซึ่งเป็นสื่อโซเชียลที่ไม่ต้องลงทุนอะไรกลับหาไม่เจอหรือแทบไม่มีความเคลื่อนไหวเลย ขณะที่คู่แข่งที่เป็นคนรุ่นใหม่ลุยทั้งพื้นที่ทั้งโซเชียล กระสุนดีกระแสแรงหลายคนมาก ศาสตรา ศรีปาน พรรคพลังประชารัฐ ลุยต่อเนื่องกระสุนมีกระแสมาแถมญาติเยอะอีกต่างหากเลยกวาดคะแนนึคว้าชัยมาได้ และยังมีกระแสอนาคตใหม่ ภูมิใจไทยมาแบ่งคะแนนไปอีก เที่ยวหน้าจะลงต่อหรือหายจากสนามการเมืองเลยต้องติดตามกันต่อ

เขต3 วิรัตน์ กัลยาศิริ พ่ายพยม พรหมเพชร พปชร. เจ้าของพื้นที่เก่าที่ยังเข็นตัวเองลงสนามทั้งที่สภาพร่างกายไม่ค่อยพร้อมเท่าไหร่ แถมยังมีการเปิดศึกชิงลงผู้แทนเขตนี้กันจนวุ่นวาย นายกไพร ก็พลอยลาออกจากนายกหาดใหญ่จะมาลงสนามนี้ด้วยแต่ลงไม่ได้ก็ยังจะดันคนอื่นอีก กว่าวิรัตน์ จะได้ยื่นใบสมัครก็เกือบวันสุดท้ายของการรับสมัครแล้ว ครูพยม พรหมเพชร พปชร.ที่สู้มาหลายเวทีและโฆษกจิตอาสาช่วยงานสังคมมาอย่างต่อเนื่อง เจ้าตัวและคนสนับสนุนก็แทบไม่เชื่อว่าคะแนนจะออกมามากขนาดนี้ ก่อนที่จะถึงการรับสมัครเลือกตั้งครูยม บอกว่าถึงไม่ชนะถ้าได้คะแนนเยอะๆ คงได้ร่วมทำงานกับพรรคผลักดันงบลงพื้นที่บ้างแต่วันนี้ครูยม กลับได้เป็นผู้แทนสมใจ เที่ยวหน้าเขตนี้ปชป.จะส่งใครต้องรอดูกันยาวๆ

เขต4 ชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว พ่ายอรุณ สวัสดี พปชร. สส.เก่าสายตรงถาวร เสนเนียม แม้จะอยู่ในพื้นที่มีการเข้าถึงชาวบ้านอยู่ตลอดแต่เที่ยวนี้ต้องบอกว่ากระแสพลังประชารัฐแรงจริงๆ ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ชื่อที่ไม่ค่อยคุนหูกลับมาหวาดคะแนนเฉือนแชมป์เก่าห่างพอสมควร หลังจากนี้ก็ต้องขยันลงพื้นที่กันต่อไปหากยังอยากกลับมาสู่สมรภูมิการเมืองอีก

เขต5 เดชอิศม์ ขาวทอง หน้าใหม่รักษาที่นั่งคว้าชัยไม่ยาก นายกชายถือเป็นลูกหม้อเขต 5 ที่แม้ไม่มีตำแหน่งทางการเมืองแต่ชาวบ้านก็ไม่เคยลืม อดีตนายกอบจ.สงขลา ที่พ่ายมาหลายสนามเที่ยวนี้มุ่งมั่นเต็มที่ในการลงสนามเลือกตั้งคราวนี้ แม้จะได้สวมเสื้อพรรคสีฟ้าในช่วงขาลงแต่นายกชายก็ยังเอาชนะคู่แข่งได้ไม่ยาก แต่คะแนนก็ไม่เป็นอย่างที่เจ้าตัวคาดหวัง ได้เป็นผุ้แทนแล้วก็ต้องรีบพิสูจน์ฝีมือเลยครับเพราะเที่ยวหน้าคงไม่ถึง 4 ปีก็น่าจะมีเลือกตั้งใหม่

เขต6 ถาวร เสนเนียม รักษาที่นั่ง พี่ใหญ่แพ้ไม่ได้แต่คะแนนห่างหายไปเยอะจากกระพลังประชารัฐและการปลุกกระแสเลือกคนในพื้นที่ของกำนันเฉลิม คลองหอยโข่งได้ดึงคะแนนไปมากเลย ส่วนของนายกสมปอง พปชร.มาจากกระแสลงตู่เป็นสำคัญ ปีนี้ 71 ปีแล้ว ลุงถาวร จะวางแผนการเมืองอย่างไรต่อคือสิ่งที่น่าสนใจในสมัยต่อไป

เขต7 ศิริโชค โสภา แพ้ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ เป็นการแพ้ที่ตัวบุคคลล้วนๆ พรรคภูมิใจไทย กระแสไม่ได้แรงในสงขลาแต่ที่เขต7 เป็นเขตที่ผุ้สมัครทำงานในพื้นที่มายาวนานเข้าถึงชาวบ้านทุกพื้นที่และยังชูธงเป็นแม่ทัพแก้ไขปัญหาราคายางอีกด้วย ศิริโชค โดนแซวเรื่องบ้านอยู่กรุงเทพมาลงพื้นที่เฉพาะตอนเลือกตั้ง การเลือกตั้งเที่ยวนี้ต้องยกเครดิตให้ณัฏฐ์ชนน ที่ขยันมากๆ กระแสพลังประชารัฐที่แรงในเขตอื่นแต่เขตนี้สู้ไม่ได้

เขต8 สุรินทร์ ปาลาเร่ รักษาที่นั่ง เขตนี้แม้จะดูเงียบๆ แต่เจ้าตัวก็มีตัวตนและผลงานในพื้นที่อยู่ การเลือกตั้งเที่ยวนี้แทบไม่มีใครพูดถึงเขตเพราะเชื่อว่า พล.ต.ต.สุรินทร์ จะชนะได้ไม่ยากในเขตนี้ วันนี้ก็ 71 ปีแล้วเช่นกันต้องดูว่าสมัยหน้าจะมีการเปลี่ยนตัวหรือไม่


จากใจอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หลังทราบการเลือกตั้งคร่าวๆ

ผมขอขอบคุณพี่น้องประชาชน คนไทยทุกคนที่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง มีส่วนร่วมในกระบวนการประชาธิปไตย ขอขอบคุณผู้ที่มอบคะแนนเสียงให้กับพรรคประชาธิปัตย์

เป็นที่แน่ชัดว่าผลการเลือกตั้งนั้น ไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ผมได้ตั้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอันดับที่นั่ง หรือจำนวนที่นั่ง ผมต้องขอโทษผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนที่ไม่สามารถผลักดันแนวคิดของเราให้ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้

ต้องขออภัยเพื่อน ๆ ร่วมอุดมการณ์หลายคน ซึ่งเป็นผู้ที่มุ่งมั่นที่จะเป็นนักการเมืองคุณภาพ ทั้งที่เป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งที่เป็นคนที่มาสมัครเป็นครั้งแรก และคนรุ่นใหม่ที่ตั้งใจมาสืบสานอุดมการณ์ของพรรค ที่ผมไม่สามารถช่วยเขาให้ประสบความสำเร็จในการเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ผมต้องแสดงความรับผิดชอบในฐานะหัวหน้าองค์กร ผมจึงขอลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่บัดนี้ ตามข้อบังคับของพรรค คณะกรรมการบริหารพรรคที่เหลืออยู่ก็จะเป็นผู้รักษาการแทนกรรมการบริหารพรรค กรรมการชุดที่รักษาการอยู่นี้ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับการเลือกตั้งก็จะเป็นผู้พิจารณาแนวทางการดำเนินการของพรรค ที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งรัฐบาลในการทำงานในสภา ตามข้อบังคับของพรรคต่อไป

ผมกราบขอบพระคุณทุกท่านที่ได้ให้กำลังใจผม ให้การสนับสนุนผมมาตลอด ความตั้งใจของผมในการทำงานให้กับพี่น้องประชาชนและพรรค ไม่มีเสื่อมคลาย แต่ผมต้องรักษาคำพูด เพราะ หนึ่งในเรื่องที่เราจะต้องสร้างให้ได้ก็คือสัจจะของนักการเมือง ผมขอขอบพระคุณทุกท่านอีกครั้งหนึ่งที่สนับสนุนผมมาตลอด

ขอบคุณครับ