​ผู้ว่าฯ ร่วมงานเลี้ยงรับรองกงสุลใหญ่จีน ยกระดับมิตรภาพหนุนการพัฒนาท้องถิ่นในภาคใต้


14 เม.ย. 2562

ผู้ว่าฯสงขลา ร่วมงานเลี้ยงรับรองกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำสงขลา ด้านกงสุลเผย 3 นโยบายทำงาน อาศัยวิสัยทัศน์ผู้นำ บูรณาการความเป็นใหญ่เข้ากับโครงสร้าง และยกระดับมิตรภาพจีนไทยอีกทั้งยังพร้อมหนุนการพัฒนาท้องถิ่นในภาคใต้ตามโครงสร้างหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีนด้วย

วันที่ 13 เม.ย. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในงานเลี้ยงรับรองแด่ ฯพณฯ หม่า เพิ่ง ชุน เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำสงขลา ซึ่งจัดขึ้น ณ ห้องคอนเฟอร์เร้นซ์ฮอลล์ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อช่วงค่ำวันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด และตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัด ของจังหวัดต่างๆในภาคใต้ รวมหัวหน้าส่วนราชการ ภารรัฐ เอกชน และสมาคม มูลนิธิต่างๆของชาวไทยเชื้อสายจีน เข้าร่วมงานจำนวนมาก

โดยภายหลังร่วมพบปะ และถ่ายภาพ รวมทั้งรับมอบของที่ระลึกจากผู้ที่มาร่วมแสดงความยินดีในครั้งนี้แล้ว ทาง ฯพณฯ หม่า เพิ่ง ชุน กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำสงขลา ได้ขึ้นเวที และกล่าวปราศรัยงานเลี้ยงรับรอง และขอขอบคุณผู้ร่วมงานทุกคน พร้อมกับเผยว่า หลังเข้ารับตำแหน่งได้ราว 1 เดือน และมีการจัดงานเลี้ยงรับร้องขึ้นในวันนี้ ตนรู้สึกประทับใจ ทั้งในบทบาทหน้าที่ของการทำงาน และการให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างจีนและไทยจากรัฐบาลและหน่วยงานต่างๆในภาคใต้เป็นอย่างดี

สำหรับนโยบายหรือแนวคิดในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างความร่วมมือที่เป็นมิตรระหว่างจีนและภาคใต้ของไทย ได้กำหนดเอาไว้ 3 ประการ คือ การต้องอาศัยวิสัยทัศน์ของผู้นำ เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศ มีการไปมาหาสู่กันเป็นเวลานานเหมือนเป็นพี่น้องกัน และหลังจากมีการสถาปนาทางการทูตมานานกว่า 44 ปี ทั้ง 2 รัฐบาล ก็ได้พัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี และสร้างผลประโยชน์ให้กับคนทั้ง 2 ประเทศ โดยทางฝ่ายจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างกัน และยินดีที่จะยึดหลักการให้ความเคารพในวิธีการพัฒนาของไทยที่เหมาะสมกับสภาพบ้านเมืองปัจจุบัน

นอกจากนี้การพัฒนาความสัมพันธ์จีนไทย โดยเฉพาะภาคใต้และจีนนั้น ต้องบูรณาการความเป็นใหญ่เข้ากับโครงสร้าง โดยเฉพาะเมื่อปีที่แล้วทางจีนได้ผลักดันกลไกความร่วมมือของจีนกับประเทศต่างๆ ตามโครงสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เพื่อเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน และขยายความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ และการค้า การท่องเที่ยว ที่แผ่ขยายออกไปมากกว่า 60 ประเทศ ทั่วโลก

และในส่วนของไทยนั้นมีความโดดเด่นในด้านของภาษาและการท่องเที่ยว โดยในส่วยของภาษา ทั้งกระแสความนิยมภาษาจีนในไทย และกระแสความนิยมภาษาไทยในจีน ต่างก็ได้รับความนิยมที่มากพอๆกัน และในด้านการท่องเที่ยวก็มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวในไทย โดยเฉพาะตามทะเลในภาคใต้มากกว่า 10 ล้านคน ต่อปี ซึ่งทางจีนหวังว่า จะได้รับความร่วมจากหน่วยงานในท้องถิ่นมากขึ้น โดนเฉพาะในส่วนของความปลอดภัย และมาตรการดูแลของนักท่องเที่ยว และทางจีนพร้อมที่ให้ความร่วมมือ และสนับสนุนในการเชื่อมต่อโครงข่ายเศรษฐกิจดิจิทัลและการเงินภายใต้โครงสร้างหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมท้องถิ่นของภาคใต้ด้วย

กงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำสงขลา กล่าวด้วยว่า ประการที่ 3 นั้น ตนคาดหวังว่า จะมีการนำเพื่อนร่วมงานทั้งหมดในสถานกงสุลใหญ่ที่ทำงานร่วมกันกับชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวจีนโพ้นทะเล มาร่วมผลักดันให้มิตรภาพจีนไทยยกระดับ หลังจากที่เมื่อหลายร้อยปีที่ผ่ามา บรรพบุรุษจีนได้โล้สำเภาข้ามสมุทรอพยพข้ามน้ำข้ามทะเลมาตั้งรกรากที่ภาคใต้ กระทั่งสามารถบุกเบิกสร้างความเจริญรุ่งเรืองมาจนถึงปัจจุบัน และอยากให้เรื่องราวดังกล่าวเป็นดั่งสะพานเชื่อมมิตรภาพจีนไทย และคาดหวังว่า ชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวจีนโพ้นทะเล จะเป็นผู้รักษามิตรภาพของทั้ง 2 ประเทศ รวมทั้งช่วยเผยแพร่วัฒนธรรมจีน และส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องต่อไป