แคปติวา เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทางไฟลุกท่วมโชคดี 8 ชีวิตปลอดภัย


16 เม.ย. 2559

เกิดอุบัติเหตุรถเชฟโรเลต แคปติวา เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทางไฟลุกท่วม ส่วนรถกระบะที่ขับตีคู่กันมาพุ่งข้ามเกาะกลางไปจอดเสียหลักยางแตก 3 เส้นอยู่ฝั่งตรงข้าม โชคดี 8 ชีวิตปลอดภัย ซึ่งมีเด็กชายวัย 1 ขวบ รวมอยู่ด้วย

เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. วันที่ 15 เม.ย. 59 ร.ต.อ.สุนทร ยิ่งคง พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งลุง รับแจ้งเกิดเหตุรถชนเสาไฟฟ้าข้างทางเสียหายไฟลุกท่วมทั้งคัน และมีผู้ได้เจ็บหลายราย บน ถ.กาญจนวนิช ใกล้กับจุดยูเทิร์นบ้านโสสะ พื้นที่ ม.8 เขตเทศบาลตำบลพะตง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนถึงโรงงานเซฟสกิน ฝั่งขาเข้าตัวเมืองหาดใหญ่ จึงประสานเจ้าหน้าที่ดังเพลิงเทศบาลตำบลพะตง พร้อมด้วยมูลนิธิกู้ชีพพะตงเทิดธรรม หน่วยกู้ชีพวังไผ่ และ หน่วยกู้ชีพสายชลคลองแงะ รุดไปยังที่เกิดเหตุ

พบรถเชฟโรเลต แคปติวา สีขาว หมายเลขทะเบียน 3-กบ-2831 กทม. เสียหลักชนเสาไฟฟ้า และมีไฟลุกท่วทั้งคัน โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องในเวลานานกว่า 15 นาท จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ส่วนคนในรถทั้งหมด 4 ราย ประกอบด้วย นายรอสาลี ดอเลาะ อายุ 19 ปี , นายฟาเต็น ยะปา อายุ 18 ปี , นายโมฮัมหมัด รอสดี้ อายุ 35 ปี ชาวมาเลเซีย และ นางรุสนานิง บินเจ๊ะมะ อายุ 31 ปี ได้ตะเกียกตะกายออกมาจากรถได้ทัน ก่อนที่จะเกิดไฟลุกไหม้ขึ้น

นอกจากนี้ใกล้กันยังพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ก 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน กจ-1145 พัทลุง เสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางไปอยู่จอดแน่นิ่งบนริมทางฝั่งตรงกันข้ามในสภาพยางแตก 3 ล้อ และคนในรถทั้ง 4 คน คือ นายสายันต์ ก๋งซ้าย อายุ 50 ปี , นางมณี ก๋งซ้าย อายุ 50 ปี นางดารา เพชรนิล อายุ 43 ปี และ เด็กชายวัย 1 ขวบ อีก 1 คน 

โดยผู้บาดเจ็บทั้งหมดถูกนำส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ และ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ซึ่งปลอดภัยทุกคน และส่วนใหญ่แน่นหน้าอกจากแรงกระแทก รวมทั้งบาดแผลถลอกตามร่างกาย มีเพียง นายรอสาลี และ นายฟาเต็น เท่านั้นที่แขนหัก 

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถทั้ง 2 คัน ได้ขับออกมาจาก อ.สะเดา และมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองหาดใหญ่ โดยขับตีคู่กันมา และเกิดกระแทกกันขึ้น ก่อนที่รถเชฟโรเลตจะเสียหลักพุ่งชนกับเสาไฟฟ้าข้างทางจนเกิดไฟลุกไหม้ขึ้น ส่วนรถกระบะหักหลบพุ่งข้ามเกาะกลางถนนไปยังฝั่งตรงกันข้าม ซึ่งโชคดีเป็นช่วงที่ถนนโล่ง จึงไม่ทำให้เกิดอุบัติเหตุซ้อนตามมา ซึ่งตำรวจจะทำการสอบสวนคนขับรถทั้ง 2 คัน เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

79.jpg82.jpg80.jpg81.jpg