ไทย-มาเลย์ พร้อมใจเปิดด่านพรมแดนสะเดา 24ชั่วโมง เพิ่มความสะดวกการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ


18 มิ.ย. 2562

เปิดแล้ว 24 ชั่วโมง พรมแดนไทย – มาเลเซีย ฝั่งอำเภอสะเดา – บูกิตกายูฮีตัม รัฐเกดะห์ มาเลเซีย

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2562 เวลา 23.00 น. ที่ด่านศุลกากรสะเดา - บูกิตกายูฮีตัม รัฐเกดะห์ มาเลเซีย จัดพิธีเปิดด่านศุลกากรสะเดา – บูกิตกายูฮีตัมเป็น 24 ชั่วโมง มีระยะเวล่ทดลอง 3 เดือน โดยมี นายชัยสิริ อนะมาน ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทวงการต่างประเทศ , นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา , ดาโตะ มาร์ซูกี ยะฮ์ยา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทวงการต่างประเทศมาเลเซีย , ดาโตะ ซรี มุคริส ตุน มหาธีร์ มุขมนตรีรัฐเกดะห์ , ผู้บริหารระดับสูง , หัวหน้าส่วนราชการ , เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และประชาชน ทั้งชาวไทยและมาเลเซียร่วมพิธีเปิดครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

นายชัยสิริ อนะมาน ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การขยายเวลาทำการของด่านศุลกากรสะเดา-บูกิตกายูฮีตัม จะส่งผลให้ปริมาณการค้าและการขนส่งสินค้าข้ามแดนขยายตัว เนื่องจากผู้ประกอบการสามารถขนส่งสินค้าข้ามแดนได้ตลอด 24 ชั่วโมง และทำให้ผู้ประกอบการสามารถส่งสินค้าไปยังปลายทางได้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่นั่นเสียง่ายนอกจากนี้สินค้าที่ขนส่งผ่านด่านสะเดาไม่เพียงแต่เป็นสินค้าที่ส่งไปยังมาเลเซีย แต่ส่วนใหญ่จะถูกส่งไปยังท่าเรือปีนังเพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่สามทั้งในและนอกภูมิภาค การย่นระยะเวลาในการขนส่งจึงช่วยลดต้นทุนของผู้ประกอบการทั้งยังสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ผู้ประกอบการและความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนต่างชาติได้อีกด้วย

สำหรับด่านศุลกากรสะเดาบูกิตกายูฮีตัมเป็น 1 ใน 10 ด่านศุลกากรชายแดนไทย-มาเลเซียที่สำคัญเมื่อปี 2561 การค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย มีมูลค่า 571,927.54 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 50.85 ของมูลค่าการค้าชายแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยสินค้าที่ส่งออกสำคัญของไทยที่ผ่านด่านสะเดาได้แก่ยางธรรมชาติ เครื่องประมวลผลข้อมูล ส่วนประกอบเครื่องจักร เครื่องสันดาปภายใน และสินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องประมวลผลข้อมูล อุปกรณ์เกี่ยวกับการบันทึกเสียง ส่วนประกอบเครื่องจักร และเครื่องยนต์สันดาป

ทั้งนี้ การขยายเวลาทำการเป็น 24 ชั่วโมง จะมีระยะเวลาทดลอง 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน - 16 กันยายน 2562 ซึ่งจะครอบคลุมเฉพาะการขนส่งสินค้าและพัสดุ โดยประเภทรถต้องเป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถพ่วง และจำกัดคนบนรถเพียงสองคนคือคนขับรถและผู้ช่วยคนขับรถเท่านั้น

อมลรดา ชูประสิทธิ์ /ข่าว ประชา โชคผ่อง /ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา