​รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ลงพื้นที่ จ.สงขลา เปิดโครงการ “สร้างการรับรู้นโยบายเกี่ยวกับกัญชา”


20 มิ.ย. 2562

รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ลงพื้นที่ จ.สงขลา เปิดโครงการ “สร้างการรับรู้นโยบายเกี่ยวกับกัญชา” เดินหน้าสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการอนุญาตใช้กัญชาในการรักษาโรค และประโยชน์ทางการแพทย์ได้อย่างถูกต้อง เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

ช่วงบ่ายวันนี้ (20 มิ.ย. 62) ที่โรงแรมลีการ์เดนส์พลาซ่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธานเปิดโครงการสร้างการรับรู้นโยบายเกี่ยวกับกัญชา เดินหน้าสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการอนุญาตใช้กัญชาในการรักษาโรค และประโยชน์ทางการแพทย์ได้อย่างถูกต้อง เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมโครงการ จำนวนกว่า 290 คน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรอำเภอ , เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัด , เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 9 , เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง รวมทั้งจังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ภาค 8 และภาค 9

พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ในฐานะหน่วยงานหลักด้านนโยบายยุทธศาสตร์และการบูรณาการในการประสานบริหารจัดการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างบูรณาการ โดยเป็นหน่วยงานที่มีความเข้มแข็ง มีองค์ความรู้ และเป็นมืออาชีพในการแก้ไขปัญหา สามารถถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับปัญหายาเสพติด และแนวทางการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้กับหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้อย่างถูกต้อง เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และทำงานสอดประสานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดการควบคุมสภาพปัญหายาเสพติดให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน และมีบทบัญญัติบางประการที่ไม่ทันสถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากนี้ปรากฏผลการวิจัยว่าสารสกัดจากกัญชา และพืชกระท่อม มีประโยชน์ทางการแพทย์เป็นอย่างมาก ซึ่งหลายประเทศทั่วโลกได้แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย เพื่อเปิดโอกาสให้มีการอนุญาตให้ประชาชนได้ใช้กัญชา และพืชกระท่อม เพื่อประโยชน์ในการรักษาโรค และประโยชน์ทางการแพทย์ได้ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 กัญชา และพืชกระท่อมเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ที่ห้ามให้ผู้ใดเสพ หรือนำไปใช้ในการบำบัดรักษาผู้ป่วย โดยนำไปใช้ในทางการแพทย์ และยังกำหนดโทษทั้งผู้เสพและผู้ครอบครองด้วย

ดังนั้น เพื่อเป็นการรับรองและคุ้มครองสิทธิของป่วยที่จะได้รับและใช้ประโยชน์จากกัญชาในการรักษาและพัฒนาทางการแพทย์ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้ได้รับอนุญาตให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ และทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านยาของประเทศ ป้องกันไม่ให้เกิดการผูกขาดทางด้านยา จึงเห็นแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 เพื่อเปิดโอกาสให้สามารถนำไปทำการศึกษาและพัฒนาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และสามารถนำไปใช้ในการรักษาโรค ภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

สำนักงาน ป.ป.ส. จึงได้จัดโครงการในครั้งนี้ขึ้น เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเพื่อเปิดโอกาสให้มีการอนุญาตให้ประชาชนใช้กัญชา และพืชกระท่อมเพื่อประโยชน์ในการรักษาโรค และประโยชน์ทางการแพทย์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ขณะที่ นายสุรพล ภัทรปกรณ์ ผู้อำนวยการ ป.ป.ส. ภาค 9 กล่าวว่า การจัดโครงการในครั้งนี้ มีการชี้แจงโครงการสร้างการรับรู้นโยบายเกี่ยวกับกัญชาและการบรรยายให้ความรู้ในหลายหัวข้อที่น่าสนใจ อาทิ การให้ความรู้เกี่ยวกับกัญชา และพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 , การบรรยายหัวข้อ “กัญชาทางการแพทย์ที่สังคมควรรู้” , กัญชากับการรักษาโรค , องค์กรเภสัชกรรมกับการปลูกและการผลิตสารสกัดจากกัญชา การนำกัญชาและการนำสารสกัดกัญชาไปใช้ในงานวิจัย , อย.กับการขออนุญาตปลูก ครอบครอง ผลิต จำหน่าย วิจัย ซึ่งพืชเสพติดให้โทษประเภท 5 การควบคุมและกำกับการใช้ประโยชน์กัญชา เพื่อการศึกษาวิจัยและประโยชน์การแพทย์ เป็นต้น

ข่าว-สุธิดา พฤกษ์อุดม / สวท.สงขลา

ภาพ-โปรดปราน บุญธรรม / KTSLive .com