​1 ส.ค.นี้พร้อมเปิดบริการหอดูดาวภูมิภาคสงขลา ศูนย์การเรียนรู้ดาราศาสตร์เต็มรูปแบบแห่งแรกของภาคใต้


13 ก.ค. 2562

หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา เตรียมให้บริการเปิดให้บริการแก่ประชาชนในวันที่ 1 สิงหาคม 2562 โดยเปิดให้บริการวันอังคาร - อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์)ให้ความรู้ด้านวิชาการ ด้านดาราศาสตร์แก่ประชาชนในท้องถิ่นและใกล้เคียง สนับสนุนการจัดการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษาและค้นคว้าวิจัย รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวิชาการที่สำคัญของภูมิภาค

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เตรียมเปิด “หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา” หอดูดาวภูมิภาคสำหรับประชาชนเต็มรูปแบบแห่งที่ 3 ของไทย ศูนย์การเรียนรู้ดาราศาสตร์และแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิชาการที่สำคัญของภาคใต้ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงเปิด วันที่ 25 กรกฎาคม 2562 พร้อมให้บริการประชาชนตั้งแต่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป

“หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา” หรือหอดูดาวภูมิภาคสงขลา เป็นหอดูดาวภูมิภาคสำหรับประชาชนเต็มรูปแบบแห่งที่ 3 ของประเทศไทย ด้วยตำแหน่งที่ตั้งในภาคใต้ บริเวณละติจูด 7 องศาเหนือ ส่งผลให้หอดูดาวแห่งนี้ มีจุดเด่นคือ สามารถศึกษาวัตถุในซีกฟ้าใต้ได้ดีกว่าหอดูดาวในภูมิภาคอื่น และยังสามารถสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ในช่วงฤดูฝนของประเทศไทยตอนบนได้ เนื่องจากสภาพท้องฟ้าของภาคใต้ในเวลานั้นเอื้ออำนวยต่อการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์มากกว่าภูมิภาคอื่น

อ. เฉลิมชนม์ วรรณทอง ผู้อำนวยการหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ สงขลา กล่าวเพิ่มเติมว่า หอดูดาวภูมิภาคสงขลา ไม่เพียงเป็นแหล่งเรียนรู้ดาราศาสตร์เต็มรูปแบบแห่งแรกของภาคใต้ แต่ยังเป็นศูนย์เรียนรู้ดาราศาสตร์มุสลิมแห่งแรกของไทย มีพันธกิจในการร่วมสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการกำหนดเวลาที่ใช้ในพิธีทางศาสนาอิสลาม อันเป็นการสนับสนุนภารกิจของสำนักจุฬาราชมนตรีอีกด้วย และด้วยทำเลที่ตั้งบนเขารูปช้าง จากหอดูดาวสามารถมองเห็นทะเลสองฝั่ง มีทัศนียภาพที่โดดเด่นสวยงาม คาดว่าจะเป็นแลนด์มาร์คการเรียนรู้ดาราศาสตร์แห่งใหม่ของภาคใต้ที่ช่วยเปิดประสบการณ์ด้านดาราศาสตร์ให้กับเยาวชน ประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สำหรับการเปิดให้บริการ หอดูดาวภูมิภาคสงขลา จะเปิดให้บริการแก่ประชาชนในวันที่ 1 สิงหาคม 2562 โดยเปิดให้บริการวันอังคาร - อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์)

ทั้งนี้ สดร. ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิด “หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา” อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2562

สำหรับหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 25 ไร่ บริเวณเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา บริเวณละติจูด 7 องศาเหนือ ลองจิจูด 100 องศาตะวันออก ที่สามารถศึกษาวัตถุท้องฟ้าในซีกฟ้าใต้ได้ดี โดยเฉพาะดาวเคราะห์ในระบบสุริยะทั้งหมด และตรวจตราติดตามวัตถุขนาดเล็กในระบบสุริยะได้ ทั้งยังสามารถสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ได้ในช่วงฤดูฝนของภูมิภาคอื่นๆ พร้อมสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ การศึกษาวิจัยด้านดาราศาสตร์และอวกาศ รวมทั้งวิทยาศาสตร์ระบบโลก สำหรับนักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ และสถาบันการศึกษาในเขตภูมิศาสตร์ภาคใต้ และกลุ่มประเทศอาเซียนตอนล่าง รวมถึงเป็นศูนย์เรียนรู้ดาราศาสตร์มุสลิมแห่งแรกของประเทศไทย ที่มีทัศนียภาพโดยรอบที่สวยงาม มองเห็นได้ทั้งทะเลสาบสงขลาและอ่าวไทย

ทั้งนี้ภายในหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา ประกอบด้วยอาคารฉายดาว มีโดมฉายดาวขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เมตร ติดตั้งเครื่องฉายดาวระบบฟูลโดมดิจิทัล ความละเอียด 25 ล้านพิกเซล 12 กล้องฉาย สามารถแสดงภาพเสมือนสามมิติ มีอาคารหอดูดาว มีโดมไฟเบอร์กลาสทรงเปลือกหอย ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 18 ฟุต เปิดออกได้ 180 องศา สังเกตท้องฟ้าได้รอบทิศทาง การติดตั้งกล้องโทรทรรศน์อัตโนมัติแบบสะท้อนแสงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.7 เมตร พร้อมอุปกรณ์สำหรับงานวิจัยดาราศาสตร์ รวมถึงอาคารหอดูดาวที่มีระเบียงดาวหลังคาเลื่อน ติดตั้งกล้องโทรทรรศน์ขนาดรองลงมาอีก 6 ชุด ใช้สังเกตวัตถุท้องฟ้า และจัดกิจกรรมดาราศาสตร์

นอกจากนี้ยังมีเครื่องตรวจวัดสภาพอากาศ ที่มีความทันสมัย, ลานดูดาวที่สามารถรองรับคนได้มากกว่า 500 คน มีกล้องดูดาวเทคโนโลยีมากกว่า 50 ชุด มีอาคารอำนวยการที่เป็นส่วนสำนักงานและมีห้องโถงนิทรรศการที่มีความทันสมัย รองรับการจัดการเรียนรู้การวิจัยด้านดาราศาสตร์แบบครบวงจรทั้งระบบ Astronomy Multimedia ระบบอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงเชื่อมต่อระบบกล้องอัตโนมัติอีกด้วย (โดมท้องฟ้าจำลอง คิดค่าบริการผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 30 บาท)