เลขาธิการ ศอ.บต. ตรวจเยี่ยมด่านศุลกากรนาทวี หารือแก้ไขปัญหาเส้นทางหลักที่ยังไม่สามารถเปิดใช้งาน 4 เลน
เลขาธิการ ศอ.บต. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมด่านศุลกากร พร้อมร่วมหารือแก้ไขปัญหาเส้นทางหลักที่ยังไม่สามารถเปิดใช้งาน 4 เลนได้ เพื่อความสะดวกในการสัญจรต่อประชาชนทั้งในและต่างประเทศ
วันนี้ (18 กรกฎาคม 2562) ที่ ด่านศุลกากรบ้านประกอบ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนหัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการในพื้นที่ด่านศุลกากรบ้านประกอบ เพื่อร่วมประชุมหารือในเรื่องของเส้นทางเข้ามาด่านศุลกากรบ้านประกอบในระยะทาง 4 กิโลเมตรที่ยังมีปัญหาและไม่สามารถเปิดใช้งาน 4 เลนในช่วงบางเส้นทาง โดยทางหลวงสายนี้อยู่ในพื้นที่ตำบลทับช้าง อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นทางหลวงที่มีปริมาณจราจรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นเส้นทางสายหลักในการเดินทางไปสู่ด่านศุลกากรบ้านประกอบ และมีแนวโน้มการขนส่งสินค้าชายแดน อาทิ ผลิตผลทางการเกษตร กุ้งสด นำยางพารา สินค้าใช้ในครัวเรือนมากขึ้น
โดยครั้งนี้มีนายอาทิตย์ วิสุทธิสมาจาร นายด่านศุลกากรบ้านประกอบ ตัวแทนจากสาธารณสุขจังหวัด ตัวแทนจากสำนักควบคุมพืชฯ เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร และผู้ประกอบการเอกชน ร่วมให้การต้อนรับ พร้อมร่วมหารือในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวในที่ประชุมในครั้งนี้ว่า ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมทำงานในพื้นที่ด่านศุลกากรบ้านประกอบ ร่วมพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ให้มีความก้าวหน้าได้มายาวนาน แต่อย่างไรก็ตามยังมีหลายด้านที่เราทุกคนจะต้องร่วมช่วยกันเพื่อให้หลุดพ้นจากวังวนเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นให้ได้ เพื่อบ้านเมืองของเรากลับคืนสู่ความสันติสุข และวันนี้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีหลายเรื่องราวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพื้นที่ด่านศุลกากรบ้านประกอบ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ก็เช่นเดียวกันเป็นพื้นที่ที่สำคัญต่อการขยายความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เพราะการเดินทางจากด่านศุลกากรบ้านประกอบ ไปยังจุดหมายปลายทางใช้แค่เวลา 2 ชั่วโมงเท่านั้น ดังนั้นสิ่งไหนที่จะต้องเร่งช่วยเหลือและแก้ไข ควรดำเนินการให้ทันที และเราทุกคนจะต้องร่วมด้วยช่วยกันเพื่อให้พื้นที่แห่งนี้เกิดการพัฒนาต่อไปในอนาคต
ด้านนายอาทิตย์ วิสุทธิสมาจาร นายด่านศุลกากรบ้านประกอบ กล่าวในครั้งนี้ว่า ทางหลวงสายดังกล่าว เป็นเส้นทางที่มีความสำคัญต่อการคมนาคมขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทยกับประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการค้า การลงทุนระหว่างประเทศ สร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และที่สำคัญยังจะช่วยอำนวยความสะดวก รวดเร็ว และความปลอดภัยในการเดินทาง บริเวณพื้นที่ของโครงการฯ และใกล้เคียงส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จทำให้การขนส่งผลผลิตการเกษตรสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น แต่เมื่อยังมีปัญหาที่มีเส้นทางบางจุดที่ไม่สามารถเปิดเป็น 4 เลนได้ เนื่องจากยังมีปัญหาชาวบ้านในพื้นที่บางรายที่ไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ดังกล่าวได้ อาจทำให้การสัญจร หรือการใช้เส้นทางมีปัญหา และมีผลประทบถึงความเจริญก้าวหน้าด้านเศรษฐกิจในอนาคตก็ว่าได้ ดังนั้น ทุกคนจะต้องหารือ โดยเฉพาะ รัฐบาล และ ศอ.บต. ร่วมหาวิธีแก้ไขปัญหาโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ยินดีและพร้อมจะร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการช่วยแก้ไขปัญหาเส้นทางที่เข้าสู่ด่านศุลกากรบ้านประกอบแห่งนี้ เพื่อเป็นผลประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชนทั้งในและต่างประเทศที่ใช้ในการสัญจรถนนเส้นนี้ให้เกิดความปลอดภัย และสะดวกต่อการขนส่งสินค้าไปยังประเทศมาเลเซียอย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้นในอนาคตต่อไป
ทั้งนี้ เลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมคณะ ยังได้ตรวจเยี่ยมและให้ขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ถึงการทำงานของหน่วยงาน ด่านศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง ตลอดจนพูดคุยกับพี่น้องประชาชนที่ใช้บริการด่านศุลกากรบ้านประกอบแห่งนี้อีกด้วย
