สนทช.รับฟังความเห็นการแก้ไขปัญหาภัยแล้งและบรรเทาอุทกภัยทะเลสาบสงขลา
สทนช.จัดประชุมสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 ปฐมนิเทศโครงการศึกษาการแก้ไขปัญหาภัยแล้งและบรรเทาอุทกภัยทะเลสาบสงขลา
(19 ก.ค. 62) ที่ห้องประชุมบ่มเพาะคนดี อาคารฝึกอบรมสวนประวัติศาสตร์พลเอกเปรมติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา นายสิริวิชญ กลิ่นภักดี ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการลุ่มน้ำสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 1 ปฐมนิเทศโครงการศึกษาการแก้ไขปัญหาภัยแล้งและบรรเทาทุกข์ภัยทะเลสาบสงขลา โดยเครือข่ายลุ่มน้ำ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและประชาชนในพื้นที่จังหวัดสงขลา นครศรีธรรมราช และพัทลุงเข้าร่วมโครงการกว่า 250 คน
นายสิริวิชญ กลิ่นภักดี ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการลุ่มน้ำสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาเป็นลุ่มน้ำแห่งเดียวของประเทศไทยที่มีระบบทะเลสาบแบบ lagoon ขนาดใหญ่ เป็นแอ่งรองรับน้ำจืด โดยมีน้ำเค็มจากทะเลไหลเข้ามาผสมผสานพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลามีเนื้อที่ 9,807 ตารางกิโลเมตร แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่เป็นพื้นดินมีเนื้อที่ประมาณ 8,761 ตารางกิโลเมตร และส่วนที่เป็นพื้นน้ำมีพื้นที่ประมาณ 1,046 ตารางเมตรกิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่ครอบคลุม 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดสงขลาและจังหวัดพัทลุง พื้นที่ทะเลสาบสงขลาประสบปัญหา 3 ประเด็นหลักคือ ปัญหาด้านน้ำ เช่นน้ำท่วม น้ำแล้ง และปัญหาคุณภาพน้ำเค็ม , ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เช่นปัญหาตะกอน การตื้นเขินของทะเลสาบ การบุกรุกต้นน้ำ การอนุรักษ์สัตว์น้ำ และปัญหาบริหารจัดการองค์กรที่พบในพื้นที่อาจมีความขัดแย้งในพื้นที่ รวมถึงปัญหาด้านกฎระเบียบตื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
จากปัญหาดังกล่าวสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ จึงได้จัดโครงการครั้งนี้ขึ้น เพื่อหาแนวทางในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง และคงความสมบูรณ์ของระบบนิเวศ ซึ่งถือเป็นการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรและพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนโดยการดำเนินงานโครงการมุ่งเน้นการศึกษาภัยแล้งและอุทกภัยเป็นหลักเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน รวมถึงใช้แนวทางแก้ไขปัญหาแบบบนลงล่าง คือการกำหนดนโยบายจากหน่วยงานรัฐ ร่วมกับแนวทางแก้ไขปัญหาแบบล่างขึ้นบน คือประชาชนเป็นผู้ร่วมกำหนดทิศทางนโยบายและกระบวนการในการพัฒนาโดยตรงื เพื่อให้สามารถดำเนินงานแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดทั้งแนวทางการพัฒนาแผนหลักเป็นปฏิบัติการและแนวทางการบริหารจะพิจารณาให้สอดคล้องกับกฎหมายกฎระเบียบของหน่วยงานต่าง ๆ ต่อไป
อมลรดา ชูประสิทธิ์ /ข่าว จิรพัฒน์ วงศ์กระจ่าง /ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา