อำเภอควนเนียง คุมเข้มมาตรการป้องกันปัญหาอัคคีภัยและหมอกควันไฟป่าของอำภอควนเนียง ประจำปี 2562


15 ส.ค. 2562

อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา คุมเข้มมาตรการป้องกันปัญหาอัคคีภัยและหมอกควันไฟป่าของอำภอควนเนียง ประจำปี 2562 หากฝ่าฝืนจะดำเนินทางกฏหมายอย่างจริงจัง



นายดำรงศักดิ์ แก้วดวง นายอำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ตามที่อำเภอควนเนียง ได้ประสบปัญหาเกิดอัคคีภัยป่าพรุเสม็ดทุ่งบางนกออก และเกิดปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้น หมู่ที่ 4 บ้านโคกทราย , หมู่ที่ 5 บ้านปากจ่า , หมู่ที่ 6 บ้านกลาง , หมู่ที่ 8 บ้านสวน , หมู่ที่ 10 บ้านใต้ และหมู่ที่ 11 บ้านบ่อหว้า ตำบลควนโส อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา ตั้งแต่วันที่วันที่ 5-14 สิงหาคม 2562 นั้น

อำเภอควนเนียงได้ร่วมกันบูรณาการหน่วยงานต่าง ๆ ในการใช้มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาระงับไฟป่าและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า ซึ่งได้ดำเนินการจนภัยใกล้ยุติ และเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดอัคคีภัยและปัญหาหมอกควันที่จะเกิดขึ้นอีกในพื้นที่ ที่เกิดอัคคีภัย หรือพื้นที่ใกล้เคียง อำเภอควนเนียงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้เพิ่มความเข้มข้นของการใช้มาตรการต่าง ๆ ในด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าของพื้นที่อำเภอควนเนียง โดยได้กำหนดมาตรการ ตั้งแต่วันที่ 14-31 สิงหาคม 2562 ดังนี้

1.ห้ามไม่ให้ผู้ใดดำเนินการเผากิ่งไม้ ใบไม้ เผาสิ่งที่เหลือใช้ทางการเกษตร เผาขยะมูลฝอย และเผาพื้นที่เกษตรกรรม อันจะส่งผลให้เกิดอัคคีภัยในพื้นที่ดังกล่าว หากพบว่ามีการฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมายทันที

2.ขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง จัดทำป้ายในพื้นที่ชุมชนประกาศผ่านเสียงตามสาย ถึงความจำเป็นในการห้ามเผาช่วงเวลาดังกล่าว โดยให้แจ้งบทกำหนดโทษ เพื่อเป็นการป้องปรามและให้ประชาชนทั่วไปทราบถึงบทกำหนดโทษ หากมีการฝ่าฝืน

3.ขอความร่วมมือราษฎรและประชาชนจิตอาสา เมื่อพบเห็นไฟไหม้ป่าบริเวณใด ให้ช่วยกันดับไฟโดยเร็ว เพื่อมีให้ไฟขยายเป็นวงกว้าง หรือหากพบเห็นไฟไหม้ในทุกพื้นที่ คนจุดไฟเผาป่า เผาพื้นที่ทางการเกษตร สามารถแจ้งเหตุได้ที่ กำนันผู้ใหญ่บ้าน และหรืออำเภอควนเนียง ได้ที่ นายสมนิตย์ สุขแก้ว ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง โทร.06-3903-2970 เพื่อจะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการเข้าถึงพื้นที่เพื่อระงับเหตุ

4.โดยให้กำนันผู้ใหญ่บ้านสอดส่องดูแลไม่ให้ราษฎรเผาพื้นที่ ที่ตนถือครองจนเป็นเหตุให้ไฟลุกลามไหม้ป่า โดยให้กำนันผู้ใหญ่บ้านแจ้งต่อนายอำเภอท้องที่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแก่ราษฎรที่ฝ่าฝืน หรือปล่อยปละละเลยโดยเฉียบขาดทุกราย โดยเฉพาะราษฎรบุกรุกเข้าไปแผ้วถางปา หรือทำประการใด ๆ ให้เกิดไฟไหม้ป่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ

5.ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการตามข้อบัญญัติ หรือเทศบัญญัติ ลงโทษผู้กระทำความผิด หากมีการเผาขยะมูลฝอยเผาใบไม้กิ่งไม้และการเผาในที่โล่งทุกชนิด ซึ่งเป็นเหตุเดือดร้อนรำคาญตามพระราชบัญญัติการสารรณสุข พุทธศักราช 2535

6.การจุดไฟเผาป่า หรือปล่อยให้ไฟลุกลามเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า มีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 ต้องระวางโทษจำคุก 5 ปี และปรับ 50,000 บาท , ตามพระราชบัญญัติปสงวนแห่งชาติ พุทธศักราช 2507 มาตรา 14 ต้องระวางโทษจำคุก 6 เดือน ถึง 5 ปี และปรับ 5,000 ถึง 50,000 บาท , ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พุทธศักราช 2504 มาตรา 16 ต้องระวางโทษจำคุก 5 ปี และปรับ 20,000 บาท , ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 มาตรา 38 ต้องระวางโทษจำคุก 7 ปี และปรับ 100,000 บาท และเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 ผู้ใดกระทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใด ๆ แม้จะเป็นของตนเองจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น หรือทรัพย์สินของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท แล้วแต่กรณี

สุธิดา พฤกษ์อุดม /ข่าว/ภาพ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดสงขลา