ฝ่ายความมั่นคง สนธิกำลังเข้าปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นเรือนสงขลาแต่รุ่งสางแต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย


25 ต.ค. 2562

ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง สนธิกำลังเข้าปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นเรือนจำกรณีพิเศษตั้งแต่รุ่งสาง หาสิ่งผิดกฎหมายและสิ่งของต้องห้าม พร้อมสุ่มตรวจปัสสาวะผู้ต้องขัง เพื่อหาสารเสพติด เบื้องต้นไม่พบสารเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย


(25 ต.ค. 62) ที่เรือนจำจังหวัดสงขลา นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายดำรงค์ บัวฤทธิ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสงขลา นางนิภา งามไตรไร ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสงขลา นายไชยพร นิยมแก้ว นายอำเภอเมืองสงขลา นำเจ้าหน้าที่จากทัพเรือภาคที่ 2 สงขลา กองร้อยอาสารักษาดินแดนที่ 1 จังหวัดสงขลา ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 5, ตำรวจภูธรเมืองสงขลา, สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 9 และชุดปฏิบัติการพิเศษเขต 9 จำนวน 160 นาย สนธิกำลังปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นกรณีพิเศษเรือนจำจังหวัดสงขลาตั้งแต่รุ่งสาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ในสังกัดร่วมปฏิบัติการตรวจค้นอย่างเข้มข้นและเป็นไปอย่างเรียบร้อย

นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า สถานการณ์ปัญหายาเสพติดในปัจจุบันยังมีการแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น เป็นภัยสังคมคุกคามต่อการพัฒนาประเทศและความสงบสุขของสังคม นำไปสู่ปัญหาการก่ออาชญากรรมต่าง ๆ ส่งผลกระทบเชิงลบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ เป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาประเทศ ผลจากการเร่งรัดการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเร่งด่วนของรัฐบาล ทำให้มีการจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดทั้งผู้เสพและผู้ค้าได้เป็นจำนวนมาก รัฐบาลจังได้กำหนดเป็น "วาระแห่งชาติ" ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด อีกทั้งเป็นปัญหาสำคัญที่ทุกหน่วยงานต้องเข้ามาร่วมมือกันแก้ไข ประสานงานติดต่อสื่อสารที่จะเชื่อมโยงประสานความร่วมมือกันอย่างจริงจัง

ด้านนายดำรงค์ บัวฤทธิ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เรือนจำจังหวัดสงขลาได้ดำเนินการจู่โจมตรวจค้นกรณีพิเศษตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่มีนโยบายมอบหมายให้เรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและโทรศัพท์มือถือให้หมดสิ้นไปจากเรือนจำและทัณฑสถานโดยเร็ว ตามนโยบาย 5 ก้าวย่างการเปลี่ยนแปลงราชทัณฑ์ ก้าวย่างที่ 1 : ควบคุมปราบปรามยาเสพติด โทรศัพท์มือถือ และสิ่งของต้องห้ามเข้าเรือนจำ และนโยบายอธิบดีกรมราชทัณฑ์ 3 ส. 7 ก.โดยให้ดำเนินการจู่โจมตรวจค้นกรณีพิเศษเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง

สำหรับการจู่โจมตรวจค้นในครั้งนี้เป็นเพื่อให้เรือนจำทุกแห่งต้องดำเนินการปราบปรามยาเสพติด โทรศัพท์มือถือและสิ่งของต้องห้ามภายในเรือนจำไม่ให้มีการลักลอบเข้ามา หรือมีไว้ภายในเรือนจำอย่างเด็ดขาด โดยให้เรือนจำทำการจู่โจมตรวจค้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรือนจำจังหวัดสงขลามีภารกิจด้านการควบคุมผู้กระทำความผิดตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งผู้ต้องขังส่วนใหญ่เป็นผู้ต้องขังคดียาเสพติด บางคนอาจมีอิทธิพลด้านการเงินและมีเครือข่ายภายนอกเรือนจำอาจลักลอบ ใช้เรือนจำเป็นฐานในการสั่งซื้อ-ขาย ยาเสพติดโดยใช้โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์สื่อกลางในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายภายนอกเรือนจำ

ผลการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ได้แยกย้ายเข้าค้นเรือนนอน ตู้เก็บสิ่งของและอาคารสถานที่ภายในเรือนจำอย่างละเอียดแต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการสุ่มตรวจปัสสาวะในกลุ่มผู้ต้องขัง จำนวน 250 คน เพื่อหาสารเสพติด เบื้องต้นไม่พบสารเสพติด ปัจจุบันเรือนจำจังหวัดสงขลา มีผู้ต้องขังทั้งหมด 2,653 คน

ศิริลักษณ์ แคล้วคลาด /ข่าว/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา