จ.สงขลา จัดงาน “วันพระบิดาแห่งฝนหลวง” ประจำปี 2562 เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 “พระบิดาแห่งฝนหลวง”


14 พ.ย. 2562

จังหวัดสงขลา จัดงาน “วันพระบิดาแห่งฝนหลวง” ประจำปี 2562 เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 “พระบิดาแห่งฝนหลวง”

ช่วงเช้าวันนี้ (14 พ.ย. 62) ที่หอประชุมเอนกประสงค์ มหาวิทยาลัยราชมงคลศรีวิชัย อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สด หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 เนื่องใน “วันพระบิดาแห่งฝนหลวง” ประจำปี 2562 โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ชมรมแม่บ้านมหาดไทย จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. อาสาฝนหลวง นักเรียน นักศึกษา ชมรม มูลนิธิ และบุคคลทั่วไปเข้าร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง จากหน่วยงานต่าง ๆ กว่า 100 หน่วยงาน จำนวนกว่า 400 คน บรรยากาศเต็มเปี่ยมไปด้วยความจงรักภักดี

จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้กล่าวรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ความว่า “ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ.2545 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนการิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ในฐานะที่ทรงเป็น "พระบิดาแห่งฝนหลวง" และได้กำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปี เป็น"วันพระบิดาแห่งฝนหลวง" เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2498 เป็นวันที่พระองค์ ทรงมีพระราชดำริ ที่จะนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการบังคับเมฆให้เกิดเป็นฝนจนเกิดเป็นเทคโนโลยีฝนหลวงขจัดปัดเป่าความทุกข์ยากให้แก่พสกนิกรของพระองค์ที่ประสบภัยแล้ง และเป็นองค์ประกอบในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ จวบจนปัจจุบันพสกนิกรชาวไทยทั้งมวล ต่างสำนึกและตระหนักว่าพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรทรงตรากตรำพระวรกายในการทรงงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต บำบัดทุกข์บำรุงสุขของราษฎรผู้ยากไร้ด้อยโอกาสทั่วทุกภาคของประเทศให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วยทรงมีพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกลตลอดจนพระอัจฉริยภาพ และพระวิริยะอุตสาหะในการทรงทุ่มเทให้กับการประดิษฐ์คิดค้น วิจัยและพัฒนาจนเกิดเป็นโครงการพระราชดำริมากมายนานัปการ ซึ่งรวมถึงโครงการพระราชดำริฝนหลวง อันก่อเกิดประโชน์คุณูปการอเนกอนันต์แก่ปวงชนชาวไทยด้วยพระมตตาธรรม และพระจริยธรรมที่ล้ำเลิศยิ่งในพระเมตตาธิคุณอย่างมิรู้เสื่อมคลายในโอกาส "วันพระบิดาแห่งฝนหลวง" ได้เวียนมาบรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่งในวันนี้ ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตนำข้าราชการ เจ้าหน้าที่ส่วนราชการต่างๆ และประชาชนน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายราชสักการะ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนการิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ขอน้อมถวายความจงรักภักดี และขอตั้งปณิธานน้อมนำแนวพระราชดำริที่พระราชทานไว้ไปปฏิบัติด้วยความตั้งใจมั่นสืบไป

ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นพิธีผู้เข้าร่วมงานได้ร่วมชมนิทรรศการ "พระบิดาแห่งฝนหลวง" อีกด้วย

สำหรับ "วันพระบิดาแห่งฝนหลวง" ของทุกปีตรงกับวันที่ 14 พฤศจิกายน ปีนี้เป็นปีที่ 64 นับจากวันที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริ ริเริ่มโครงการฝนหลวงขึ้นในประเทศไทย เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2498 และเป็นปีที่ 17 นับจากวันที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2545 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฐานะเป็น "พระบิดาแห่งฝนหลวง" เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงก่อให้เกิด "เทคโนโลยีฝนหลวง" ขึ้นมาบรรเทาทุกข์ยากแก่มวลพสกนิกรและมวลมนุษย์ในโลกให้รอดพ้นจากความเดือดร้อนเสียหาย ทั้งในด้านเศรษฐกิจ และสังคม อันเนื่องจากภัยแล้งได้อย่างสัมฤทธิผลเป็นที่ประจักษ์ชัด พระปรีชาสามารถ ทั้งนี้ เป็นที่ยอมรับทั่วไปทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สุธิดา พฤกษ์อุดม /ข่าว/ภาพ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดสงขลา