อธิบดีกรมธนารักษ์ ลงพื้นที่ จ.สงขลา เปิดโครงการ "จัดทำชุมชน ให้เป็นห้องประชุมในที่ราชพัสดุ" ตามแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน


อธิบดีกรมธนารักษ์ ลงพื้นที่ จ.สงขลา เปิดโครงการ "จัดทำชุมชน ให้เป็นห้องประชุมในที่ราชพัสดุ" ตามแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน บนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สข.506 ตำบลเทพา อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการ ขยาย/ปรับปรุงพื้นที่ตลาดเดิม และตลาดสร้างขึ้นใหม่ให้แก่เกษตรกร ผู้มีรายได้น้อย ผู้ประกอบการที่เดือดร้อนจากการที่ไม่มีสถานที่ค้าขาย และผู้ประกอบการรายใหม่ได้มีอาชีพ ก่อให้เกิดรายได้ และมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจในภาพรวมของจังหวัด


วันที่ (20 พ.ย. 62) ที่ ศาลาอเนกประสงค์ชุมชนบ้านพระพุทธ หมู่ที่ 7 ตำบลเทพา อำภอเทพา จังหวัดสงขลา นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เป็นประธานเปิดโครงการ "จัดทำชุมชน ให้เป็นห้องประชุมในที่ราชพัสดุ" ตามแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน บนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สข.506 ตำบลเทพา อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการ ขยาย/ปรับปรุงพื้นที่ตลาดเดิม และตลาดสร้างขึ้นใหม่ให้แก่เกษตรกร ผู้มีรายได้น้อย ผู้ประกอบการที่เดือดร้อนจากการที่ไม่มีสถานที่ค้าขาย และผู้ประกอบการรายใหม่ได้มีอาชีพ ก่อให้เกิดรายได้ และมีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจในภาพรวมของจังหวัด โดยมี นายสนอง จันทร์รักษ์ นายอำเภอเทพา นางมัลลิกา อัพภาสกิจ คลังจังหวัดสงขลา คณะผู้บริหารการคลังประจำจังหวัดสงขลา ร่วมให้การต้อนรับ และมีประชาชนทั้งพี่น้องชาวไทยพุทธไทยมุสลิมในพื้นที่เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก


นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้มีโยบายในการส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อประกอบอาชีพในลักษณะต่าง ๆ และมอบหมายให้ส่วนราชการดำเนินการส่งเสริมอาชีพให้กับประชาชนที่หลากหลาย เพื่อให้เกิดการสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน กรมธนารักษ์ในฐานะหน่วยงานในกำกับของกระทรวงคลัง และมีหน้าที่ในการบริหารจัดการที่ราชพัสดุกว่า 12.5 ล้านไร่จึงเล็งเห็นว่าการนำที่ราชพัสดุมาสนับสนุนการดำเนินโครงการดังกล่าว จะเป็นช่องทางหนึ่งในการสนับสนุนให้ประชาชนได้มีสถานที่จำหน่ายสินค้า และผลิตภัณฑ์ชุมชน อันจะส่งผลให้เกิดอาชีพ

และรายได้อย่างยั่งยืน โดยสิ่งสำคัญนอกจากพื้นที่ที่กรมธนารักษ์ได้จัดสรรไว้เพื่อรองรับในการดำเนินโครงการแล้ว ความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน

โครงการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ และก่อให้เกิดความยั่งยืนต่อไปได้ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวจะช่วยให้ประชาชนมีอาชีพ มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งต้องขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ร่วมเป็น "ภาคีในการพัฒนา" ในวันนี้ ถือได้ว่าเป็นก้าวแรก และก้าวสำคัญที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ตามนโยบายของรัฐบาล ดังคำกล่าวที่ว่า "ประสานพลังทุกส่วน เพื่อมวลประชา มุ่งพัฒนาสังคม"

ด้าน นายนิวัฒน์ นันทคีรี ธนารักษ์พื้นที่สงขลา กล่าวว่า โครงการ "จัดทำชุมชน ให้เป็นห้องประชุม ในที่ราชพัสดุ" ตามแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืนบนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สข.506 ตำบลเทพา อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ได้บูรณาการการทำแผนปรับโครงสร้างเศรษฐกิจชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจฐานรากให้เป็นรูปธรรมตามแนวทางกลยุทธ์ 3 สร้าง คือ สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุน กรมธนารักษ์ ในฐานะหน่วยงานในกำกับของกระทรวงการคลังมีภารกิจในการบริหารจัดการที่ราชพัสดุกว่า 12.5 ล้านไร่ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม ท่องเที่ยว อนุรักษ์ และศูนย์ราชการ ดังนั้น เพื่อสนองรับนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการคลัง จึงได้เสนอโครงการดังกล่าว โดยนำที่ราชพัสดุมาสนับสนุนการดำเนินโครงการ พร้อมจัดทำเป็นพื้นที่จำหน่ายสินค้าชุมชน เพื่อให้เกิดการสร้างอาชีพ และมีรายได้อย่างยั่งยืน อันจะนำไปสู่โอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนต่อไป โดยในปีงบประมาณ 2563 ได้กำหนดแผนการดำเนินโครงการให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด และในวันนี้เป็นการเปิดโครงการบนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สข.506 ตำบลเทพา อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ปัจจุบันใช้ประโยชน์ในราชการกรมการศาสนา ทั้งนี้ ภายในบริเวณงานยังมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน อาทิ กรือโป๊ะ , โรตี , น้ำบูดู , กะปิ , เครื่องจักสาน ฯลฯ ให้ผู้เข้าร่วมงานได้ร่วมร่วมอุดหนุน

สุธิดา พฤกษ์อุดม /ข่าว/ภาพ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดส

เนื้อหานี้ในภาษาอื่น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง/บทความที่น่าสนใจ

  • แอป Maxim มอบม้านั่งให้กับเทศบาลนครสงขลา สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานและการท่องเที่ยว
    แอป Maxim มอบม้านั่งให้กับเทศบาลนครสงขลา สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานและการท่องเที่ยว
  • หาดทิพย์ ติดทำเนียบหุ้น ESG100 เป็นปีที่ 7
    หาดทิพย์ ติดทำเนียบหุ้น ESG100 เป็นปีที่ 7
  • โรงไฟฟ้าจะนะได้รับการรับรอง ISO14001: 2015 และ ISO45001:2018
    โรงไฟฟ้าจะนะได้รับการรับรอง ISO14001: 2015 และ ISO45001:2018
  • มูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็ง หาดใหญ่ พร้อมจัดใหญ่งานไถ่ชีวิตโค 21-30 ก.ค.67
    มูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็ง หาดใหญ่ พร้อมจัดใหญ่งานไถ่ชีวิตโค 21-30 ก.ค.67
  • พาณิชย์-หอการค้าสงขลา ผนึกกำลังจัดงาน SMEs Fair 19-21 ก.ค.ที่ห้างบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า หาดใหญ่
    พาณิชย์-หอการค้าสงขลา ผนึกกำลังจัดงาน SMEs Fair 19-21 ก.ค.ที่ห้างบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า หาดใหญ่
  • แอร์เอเชีย เปิดบิน “สุวรรณภูมิ-หาดใหญ่” คึกคัก   ตอบรับกระเเสท่องเที่ยวในประเทศพุ่ง
    แอร์เอเชีย เปิดบิน “สุวรรณภูมิ-หาดใหญ่” คึกคัก ตอบรับกระเเสท่องเที่ยวในประเทศพุ่ง
  • มันนี่ เอ็กซ์โป 2024 หาดใหญ่ ยกโปรฯ ล่องใต้ กู้บ้าน 0% 3 เดือน เงินฝาก 2.25% NPA ลดสูงสุด 60%
    มันนี่ เอ็กซ์โป 2024 หาดใหญ่ ยกโปรฯ ล่องใต้ กู้บ้าน 0% 3 เดือน เงินฝาก 2.25% NPA ลดสูงสุด 60%
  • แอร์เอเชีย ชวนชาวหาดใหญ่ บินสะดวกกว่าสู่ 2 สนามบิน "ดอนเมือง และ สุวรรณภูมิ" ราคาเที่ยวเดียวเริ่มต้นที่ 990 บาท!
    แอร์เอเชีย ชวนชาวหาดใหญ่ บินสะดวกกว่าสู่ 2 สนามบิน "ดอนเมือง และ สุวรรณภูมิ" ราคาเที่ยวเดียวเริ่มต้นที่ 990 บาท!
  • ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ มรภ.สงขลาจับมือธ.ออมสินภาค 18 ร่วมโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น
    ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ มรภ.สงขลาจับมือธ.ออมสินภาค 18 ร่วมโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น
  • ม.อ. ผนึกหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐ-เอกชนจัดงาน SITE2024
    ม.อ. ผนึกหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐ-เอกชนจัดงาน SITE2024
  •  เปอโยต์ ร่วมเฉลิมฉลองวันชาติฝรั่งเศส จัดงาน ‘VIVE LA FRANCE’ เพิ่ม 3 รุ่นพิเศษ ราคาใหม่ เพิ่มเสน่ห์เร้าใจยิ่งขึ้น
    เปอโยต์ ร่วมเฉลิมฉลองวันชาติฝรั่งเศส จัดงาน ‘VIVE LA FRANCE’ เพิ่ม 3 รุ่นพิเศษ ราคาใหม่ เพิ่มเสน่ห์เร้าใจยิ่งขึ้น