​“นิพนธ์” มท.2 นำภาคส่วนที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพหาดชลาทัศน์ หลังคลื่นลมแรงกัดเซาะชายฝั่ง เป็นเหตุให้ต้นสนอายุเกือบ 100 ปี โค่นล้มจำนวนหลายต้น สั่งการเร่งแก้ไข


2 ธ.ค. 2562

จากสถานการณ์คลื่นลมแรงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้ต้นสนซึ่งมีอายุเกือบร้อยปี บริเวณชายหาดชลาทัศน์ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย เขตเทศบาลนครสงขลา จำนวน 6-7 ต้น หักโค่นลงมาได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก อีกทั้งคลื่นได้กัดเซาะบริเวณริมหาดเป็นแนวกว้าง สร้างความเสียหายเกือบตลอดแนวหาด


โดยในช่วงเช้าวันนี้ (2 ธ.ค. 62) นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายอำพล พงศ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายเชาวลิตน นิฒรรัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา นายไชยพร นิยมแก้ว นายอำเภอเมืองสงขลา นายสมศักดิ์ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพความเสียหาย พร้อมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหา และแนวทางในการป้องกันต้นสนล้มเพิ่ม เนื่องจากในช่วงนี้พื้นที่ภาคใต้ยังอยู่ในช่วงฤดูมรสุม

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายต้นสนโค่นล้มจากเหตุคลื่นลมแรงในวันนี้ (2 ธ.ค. 62) จะเห็นได้ว่าคลื่นลมมีความรุนแรงทำให้ต้นสนโค่นล้มจำนวนหลายต้น จึงได้ขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ จังหวัดสงขลา องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เทศบาลนครสงขลา ภาคเอกชน ตลอดจนภาคส่วนที่เกี่ยวข้องฯลฯ ในการนำกำลังคน และอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าเคลียร์พื้นที่ให้มีความปลอดภัย พร้อมทั้งมีการนำหิน ทราย และวัสดุต่าง ๆ มาทำเป็นแนวป้องกันคลื่น นอกจากนี้ ยังมีการหารือแนวทางป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง โดยจะมีการดึงต้นสนบางส่วนที่ล้มขึ้นมา แล้วนำหิน หรือดินมาถมโคนรากให้สามารถยืนต้นได้ ส่วนต้นสนที่ยังไม่ล้ม แต่มีแนวโน้มว่าจะล้มให้หาแนวทางป้องกันไม่ให้ล้มเพิ่ม โดยจะต้องรักษาสภาพแวดล้อมให้สมบูรณ์ที่สุด เนื่องจากชายหาดชลาทัศน์ เป็นชายหาดที่อยู่คู่พื้นที่จังหวัดสงขลามาอย่างยาวนาน พร้อมขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมาให้เพิ่มความระมัดระวัง และห้ามลงเล่นน้ำในช่วงฤดูมรสุมเป็นอันขาด เนื่องจากยังคงมีคลื่นลมแรงต่อเนื่องไปอีกประมาณ 2 เดือน

ขณะที่ทางกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกจังหวัดโดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้เนื่องจากยังอยู่ในช่วงฤดูมรสุม เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน

สุธิดา พฤกษ์อุดม /ข่าว/ภาพ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดสงขลา