รองผู้ว่าฯสงขลา เปิดโครงการซ้อมแผนป้องกันและระงับเหตุร้ายกรณีชิงผู้ต้องขัง คดีความมั่นคง เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือเหตุร้ายในเรือนจำ

วันนี้(22 ม.ค.63) ที่เรือนจำกลางจังหวัดสงขลา นายสมหวัง เรืองเพ็ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดโครงการซ้อมแผนป้องกันและระงับเหตุร้ายกรณีชิงผู้ต้องขัง คดีความมั่นคง
เพื่อเตรียมความพร้อมและเพิ่มทักษะให้กับเจ้าหน้าที่กรณีเกิดเหตุร้ายขึ้น และเพื่อเตรียมความพร้อมในการประสานงานขอความร่วมมือและสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอก เมื่อเกิดเหตุร้ายกับเรือนจำ ให้สามารถคลี่คลายปัญหาให้สำเร็จโดยเร็ว และไม่เกิดความเสียหาย หรือเกิดความเสียหายน้อยที่สุด โดยมีเจ้าหน้าที่ทางกรมราชทัณฑ์ กอ.รมน.ภาค4 สน. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมซ้อมแผนระงับเหตุร้ายในครั้งนี้
มีการสร้างสถานการณ์จำลองเหตุการณ์เสมือนจริง โดยรถยนต์เรือนจำได้มารับตัว ผู้ต้องขังความมั่นคง มีพนักงานขับรถเรือนจำและเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุม ซึ่งนั่งไปกับรถคันดังกล่าว และเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยและร่วมควบคุมตัวตามปกติ ในขณะที่รถเคลื่อนออกจากประตู ได้มีเสียงระเบิดดังสนั่นบริเวณร้านขายอาหาร หลังจากนั้นได้เกิดความชุลมุนวุ่นวายของญาติที่รอเยี่ยมผู้ต้องขัง และมีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดยิงมาที่รถควบคุมตัวผู้ต้องขังออกศาล โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดรักษาความปลอดภัย ได้ยิงตอบโต้และได้ติดต่อสื่อสารขอกำลังหน่วยงานข้างเคียง ในขณะที่ติดต่อได้ถูกกระสุนปืนยิงจนได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 นาย ขณะนั้นมีผู้ก่อเหตุจำนวน 1 คนวิ่งมายังรถผู้ควบคุมผู้ต้องขังออกศาล เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนและได้ยิงพนักงานขับรถจนได้รับบาดเจ็บ แล้วใช้อาวุธปืนพกสั้นจี้บังคับเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมเพื่อเอากุญแจมาเปิดประตูด้านหลังของรถจากนั้นมีการยิงกันหน้าประตูเรือนจำ ได้มีรถกระบะ 4 ประตูอีกคันซึ่งเป็นของกลุ่มผู้ก่อเหตุเพื่อจะมารับตัวผู้ต้องขัง พร้อมอาวุธครบมือได้ยิงไปที่รถควบคุมผู้ต้องขังออกศาล ชุดปฏิบัติการพิเศษของเรือนจำ จำนวน 10 นาย พร้อมรถหุ้มเกราะ ได้นำรถออกมาปิดเส้นทางเพื่อสกัดกั้นเส้นทางหลบหนี
ซึ่งชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว ของกองกำกับการ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 จำนวน 6 นาย ได้รับการร้องขอให้เข้ามาประจำพื้นที่เกิดเหตุ และผู้ก่อเหตุมีการยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่จนผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บทั้งหมด ในขณะเดียวกันผู้ต้องขังได้จับเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมเป็นตัวประกันต่อรอง จากนั้นชุดเจรจาเริ่มพูดคุยเจรจา เพื่อให้ผู้ต้องขังมอบตัวและยอมปล่อยตัวประกัน เมื่อผู้ต้องขังเห็นว่าไม่สามารถเจรจาต่อรองและต่อสู้ได้ จึงได้ยอมปล่อยตัวประกันและยอมให้ควบคุมตัวแต่โดยดี ต่อมาหน่วยเก็บกู้ระเบิด (EOD) ได้เข้าเคลียร์พื้นที่บริเวณเกิดเหตุ เพื่อเป็นการตรวจสอบพื้นที่ให้มีความปลอดภัยจากนั้นรถพยาบาลและรถฉุกเฉิน 1669 ได้เข้ามาปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลต่อไป





วรางคณา ราชแก้ว /ข่าวอรรคพงษ์ - จิระพัฒน์ - ชลิตา /ภาพสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา