​เกษตรกรยุคใหม่ ร่วมใจ หยุดเผา ช่วยลดวิกฤตหมอกควัน

นายสุพิท จิตรภักดี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันมีปัญหาวิกฤติหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกิดขึ้นในพื้นที่หลายจังหวัดของประเทศ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน การคมนาคมขนส่งทางบก ทางอากาศและการท่องเที่ยว ซึ่งมีสาเหตุสำคัญประการหนึ่ง คือ การเผาในพื้นที่การเกษตรเพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูก และการเผาในพื้นที่การเกษตรยังเป็นการทำลายโครงสร้างและความอุดมสมบูรณ์ของดิน ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืชอีกด้วย กรมส่งเสริมการเกษตร ได้เข้มงวดไม่ให้เกิดการเผาในพื้นที่การเกษตร โดยสร้างการรับรู้ให้เกษตรกรได้ตะหนักถึงผลกระทบจากการเผาในเวทีการถ่ายทอดความรู้และการประชาสัมพันธ์ สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา ร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหวัด ทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมให้เกษตรกรเตรียมพื้นที่เพาะปลูก โดยวิธีการไถกลบตอซังทดแทนการเผา เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ทำให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุน ได้รับผลผลิตสูง มีรายได้เพิ่มขึ้น และการนำเศษวัสดุทางการเกษตรมาแปรสภาพให้เกิดประโยชน์ เช่น การทำปุ๋ยหมัก การปลูกเห็ดฟาง การผลิตอาหารสัตว์ การทำถ่านอัดแท่ง และขอเน้นย้ำให้เกษตรกรและประชาชนทั่วไปทราบว่าผู้ใดเผาเศษวัสดุการเกษตรหรือเผาในพื้นที่เกษตรกรรม มีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 220 “ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท หากพบการเผาเศษวัสดุในพื้นที่การเกษตรสามารถแจ้งเหตุไปยังสายด่วนฉุกเฉิน 1784 (ตลอด 24 ชั่วโมง) ในส่วนของทุกพื้นที่ แจ้ง 1362 (ตลอด 24 ชั่วโมง) ในส่วนของพื้นที่ป่า

เมื่อเกษตรกรหยุดเผาในพื้นที่การเกษตรแล้วจะได้สิ่งดี ๆ 5 อย่างคือ อากาศดี สุขภาพดี ดินดี สิ่งแวดล้อมดี รายได้ดี เกษตรกรสนใจทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวภาพ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่สำนักงานเกษตรอำเภอสำนักงานเกษตรจังหวัดในพื้นที่