สุชาติ จันทรโชติกุล VS สาคร ทองมุณี ณ นาทีนี้ใครแต้มเหนือกว่า
คู่เอกของสนามเลือกตั้งนายกอบจ.สงขลาที่มี่การเปิดตัวอย่างเป็นทางการออกมาแล้วคงหนีไม่พ้น ผู้การชาติ พันเอก สุชาติ จันทรโชติกุล ที่มีพรรคพลังประชารัฐ แกนนำรัฐบาลให้การสนับสนุน และพี่หลวงคร พลตำรวจโท สาคร ทองมุณี ที่พรรคประชาธิปัตย์ให้การสนับสนุนลงสมัครในครั้งนี้
ผู้การชาติ แม่ทัพภาคใต้พลังประชารัฐ สามารถกวาดสส.ได้ถึง 13 จาก 50 เขตในภาคใต้ ที่สงขลากวาดมาได้ถึง 4 จาก 8 ที่นั่ง ที่ให้ความตั้งใจที่จะลงสนามนายกเมืองคอหงส์ เปลี่ยนมาเป็นสนามใหญ่อย่างอบจ.สงขลาทันที เจ้าตัวบอกว่าเป็นความต้องการผู้ใหญ่ในพรรคและชาวบ้านที่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในทุกระดับตั้งแต่ระดับชาติมาจนถึงท้องถิ่น
26 ปีที่ภาคใต้ถูกผูกขาดด้วยพรรคประชาธิปัตย์ วันนี้ได้เปลี่ยนไปแล้วการได้สส.สงขลาถึง 4 คน หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องบังเอิญแต่ความจริงคือเรื่องของยุทธศาสตร์การหาเสียง เรื่องนโยบายพรรค และความเบื่อหน่ายของประชาชนที่มีต่อพรรคการเมืองเดิมคือปัจจัยที่นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ล่าสุดผู้การชาติ นำทีมเข้าพบพลเอก ประวิตร วงศ์สุวรรณ ประธานพรรคพลังประชารัฐ โดยมีอดีตนายกไพร พัฒโน แห่งทน.หาดใหญ่ อดีตลูกหม้อปชป.ตามติดเป็นเงาไปด้วย
ผู้การชาติ อ่านเกมส์ค่อนข้างขาดว่าว่าที่ผู้สมัครสจ.ที่เปิดตัวร่วมทีมไปแล้วนั้นส่วนใหญ่จะเป็นหน้าใหม่แทบทั้งสิ้น การดึงคนมาช่วยทำแต้มจึงจำเป็นอย่างยิ่ง แม้จะมีสส.ถึง 4 คนในมือแต่ก็ใช่ว่าจะการันตีคะแนนเหล่านั้นมาเป็นของตัวเองได้ การดึงอดีตนายกอบจ.คนแรก สาทร สิกกะ จากสะบ้าย้อย รองอมรรัตน์ ศรีสถิตย์วงศ์ อดีตรองนายกทต.สำนักขามหรือเมืองด่านนอกสะเดา เปิดโควต้าฝ่ายบริหารที่เป็นมุสลิมมาช่วยเสริมคมจึงเป็นส่งสำคัญอย่างยิ่ง
เจ้าตัวยังบอกว่าพรรคอื่นๆ ก็พร้อมสนับสนุนตนเองในเที่ยวนี้ การได้คะแนนจากนายกไพร เขตเขตเมืองหาดใหญ่+สส.เขต2+3 สส.วันชัย+อดีตสจ.และนายกเล็กในเขตเมืองสงขลา ซึ่งเป็นจุดชี้ผลแพ้ชนะในการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา สส.อรุณ ในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ วันนี้ ผู้การชาติ พันเอก สุชาติ จันทรโชติกุล จึงมั่นใจว่าโอกาสเข้าวินไม่ใช่เรื่องไกลเลย
พี่หลวงคร พลตำรวจโท สาคร ทองมุณี อดีตผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ม้าเปลี่ยนสนามอีกหนึ่งคนที่ก่อนหน้านี้ประกาศจะลงนายกนครหาดใหญ่โดยจะลงในนามพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนนายกอบจ.นิพนธ์ บุญญามณี ทิ้งเก้าอี้ไปเป็นรมช.มหาดไทยในนามพรรค รวมถึงนายกไพร ก็ขอลงนายกหาดใหญ่ต่ออีก สนามอบจ.จึงเป็นคำตอบสุดท้ายของพี่หลวงคร
ทีมพรรคประชาธิปัตย์ มีสส.3 คน นายกชาย สส.เดชอิศม์ ขาวทอง คือกองหนุนคนสำคัญของพี่หลวงคร มท.2 นิพนธ์ ก็เป็นอีกแรงที่ช่วยหนุนและเป็นผู้เสนอให้พรรคเลือกมาลงสมัครนายกอบจ.ต่อจากตัวเอง สส.สุรินทร์ เขต 8 คงไปในทางเดียวกับพรรค สส.ถาวร รมช.คมนาคม ยังไม่พูดว่าสนามท้องถิ่นเที่ยวนี้จะหนุนใครเป็นพิเศษหรือไม่ แต่ที่หนุนแน่นอนคือสจ.ส่วนใหญ่ในสภาชุดปัจจุบันที่ประกาศว่าจะร่วมทีมกับพี่หลวงครเกือบ 100%
จากการพี่หลวงคร ลงพื้นที่ร่วมกับชุมชนพบปะชาวบ้านมายาวนาน มีบุคลิกที่เป็นกันเองเข้าถึงง่าย มีนายกเล็กในเกือบทุกพื้นที่ร่วมเป็นแรงหนุน การเป็นนักการเมืองที่ไม่มีบุคลิกความเป็นนักการเมืองเต็มตัว คืออีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้เจ้าตัวเข้ากับทุกคนทุกฝ่ายได้ง่าย และมีผลดีต่อการเพิ่มฐานคะแนนเสียงให้ตัวเองได้เป็นอย่างดี
สรุปโดยรวมการได้ว่าที่สจ.ที่เป็นตัวเต็งจะชนะเกือบทั้งหมด+แรงหนุนจากพรรคประชาธิปัตย์ นายหัวชวน หลีกภัย สายสัมพันธ์ที่แนบแน่นมายาวนานของพี่หลวงคร กับนักการเมืองท้องถิ่น นักธุรกิจส่วนใหญ่ของจังหวัด คือปัจจัยสำคัญที่จะโกยคะแนนให้พี่หลวงคร พลตำรวจโท สาคร ทองมุณี กำชัยชนะในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้
ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 1 คน 1 สิทธิ์ 1 เสียง คือผู้กำหนดอนาคตสงขลา การเลือกตั้งเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ประชาชนส่วนใหญ่เท่านั้นคือผู้ให้คำตอบ