รมต.สำนักนายก เยี่ยมศูนย์กักตัวต่างด้าวที่สะเดา ซึ่งใช้เป็นรพ.สนามแห่งแรกของประเทศ


1 พ.ค. 2563

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมศูนย์กักตัว ผู้ต้องกักตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา โรงพยาบาลสนามแห่งแรกของไทย ในการดูแลผู้ต้องขังต่างชาติ ขอให้ประชาชนมั่นใจไม่มีการแพร่เชื้อออกภายนอกอย่างแน่นอนขณะนี้อาการทุกคนดีขึ้นตามลำดับ


นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบกรมประชาสัมพันธ์ และรองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ ณ โรงพยาบาลสนามศูนย์กักตัว ผู้ต้องกัก ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา โดยได้รับฟังบรรยายสรุปจากนายนฤทธิ์ มงคลศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาและนายแพทย์สุวัฒน์ วิริยพงษ์สุกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชินี นาทวี ผู้ควบคุมดูแลโรงพยาบาลสนาม

สำหรับโรงพยาบาลสนามในศูนย์กักตัวผู้ต้องกักแห่งนี้เป็นแห่งแรก ที่เปลี่ยนสภาพห้องกัก เป็น โรงพยาบาลสนามมีระบบที่ได้มาตรฐานเช่นเดียวกับโรงพยาบาล โดยปรับแนวปฏิบัติตามบริบทพื้นที่ ซึ่งเป็นการทำงานประสานความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเจ้าเมือง โดยยึดหลักความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานอย่างเข้มงวด และดูแลผู้ป่วยในหลักมนุษยธรรม ทางทีมแพทย์ได้ดำเนินการตรวจประเมินผู้เข้าเกณฑ์ PUI ตรวจหาเชื้อคัดแยกผู้ไม่ติดเชื้อออกจากผู้ติดเชื้อ จำแนกระดับความเสี่ยงของผู้ป่วย วางแผนการรักษาและการส่งต่อ โดยแต่ละวันจะมีแพทย์ 1 คน พยาบาล 2 คน เพื่อประเมิน ตรวจร่างกายบันทึกผลใน Chart รายวัน วัดไข้ โดยมีล่ามภาษาแต่ละประเทศซึ่งเป็นผู้ต้องขังเช่นกัน

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยผู้ปฏิบัติหน้าที่และผู้ติดเชื้อ วันนี้จากที่ได้ตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามแห่งแรกในศูนย์กักตัว ผู้ต้องกัก ตม.สงขลา ก็ต้องชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ทุ่มเทและร่วมมือกันจนเป็นโรงพยาบาลสนามได้ภายใต้ข้อจำกัดของสถานที่ ซึ่งที่นี่พร้อมที่จะดูแลผู้ป่วย ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขทุกขั้นตอนอย่างเข้มงวด ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ว่ามีความปลอดภัยและไม่มีการแพร่เชื้อออกมาภายนอกอย่างแน่นอน สำหรับผู้ป่วยผู้ต้องกัก 42 คน อยู่ที่โรงพยาบาลสนาม 36 คน ขณะนี้ อาการดีขึ้นไม่มีไข้แล้ว ส่วนอีก 5 คน มีอาการปวดบวมร่วมด้วยอาการปานกลางส่งต่อโรงพยาบาลศูนย์หาดใหญ่ ส่วนหญิงมีครรภ์ 7 เดือน 1 ราย ส่งไปรักษาตัวที่รพ.สงขลานครินทร์ แล้ว การดูแลผู้ป่วยทั้งหมดจะมีการตรวจติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับผู้ป่วยที่เป็นคนไทย และจะดูแลจนหายเป็นปกติทุกคน ส่วนผู้ต้องกักรายอื่นเข้าขณะนี้ได้แยกตัวออกไปในที่ที่ปลอดภัยจากการเสี่ยงต่อการติดเชื้อแล้ว


มุจรินทร์ ทองนวล / ข่าว อรรคพงษ์ –ฟารีด้า / ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา