27-05-63 พบชาวไทยที่เดินทางกลับจากซาอุฯ ผ่านดาปาดังฯติดโควิด-19 อีก 6 ราย
จากกรณีที่จังหวัดสงขลา รับคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศซาอุดิอาระเบีย 39 ราย เข้าสู่กระบวนการคัดกรอง และแยกสถานที่กักตัว โดยเดินทางผ่านประเทศมาเลเซียทางด่านปาดังเบซาร์ เมื่อวานนี้ (26 พ.ค.63) ผลการตรวจพบมีผู้เดินทาง 6 รายติดเชือโควิด-19 ย้ำชาวบ้านไม่ต้องกังวลเพราะผุ้เดินทางทุกคนอยู่ในกระบวนการคัดกรองที่เข้มงวด เพื่อเฝ้าระวังผู้มีความเสี่ยงโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
จากกรณีที่คนไทยในประเทศซาอุดิอาระเบีย ได้แจ้งความประสงค์เดินทางกลับสู่ประเทศไทย ผ่านทางประเทศมาเลเซีย เข้าสู่ด่านพรมแดนปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา โดยทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด ได้ส่งคนไทยในประเทศซาอุดิอาระเบีย เดินทางกลับเข้ามาจำนวน 39 ราย จากที่แจ้งความประสงค์ไว้จำนวนทั้งหมด 45 ราย (เนื่องจากนักศึกษาไทย 6 ราย มีผลตรวจ COVID-19 เป็น positive ทางการซาอุดิอาระเบียจึงต้องกักตัวไว้ก่อน)
ล่าสุดวันนี้มีรายงานว่าผลการตัวจหาเชื้อโควิด-19 ในคนไทยกลุ่มดังกล่าว พบมีผู้ติดเชื้อ 6 ราย (สงขลา 3 ยะลา 1 ปัตตานี 1 นราธิวาส 1) โดยทางจังหวัดสงขลา ขอเน้นย้ำว่าผู้เดินทางทั้งหมดถูกส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้วและไม่ได้มีการสัมผัสกับบุคคลภายนอก จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่มีการแพร่เชื้อสู่ภายนอกแน่นอน ส่วนผู้เดินทางที่เหลือถูกส่งกักตัวดูอาการ 14 วัน มีเจ้าหน้าที่ทำการคัดกรองอย่างเข้มงวดและแยกตัวออกมาจากกลุ่มผู้เดินทางทั่วไป พร้อมทั้งทำการส่งตรวจการเพาะเชื้อทุกราย เนื่องจากประเทศซาอุดิอะราเบีย เป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงที่มีผู้ติดเชื้อในเกณฑ์สูง
ซึ่งทางทีมแพทย์ และเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธาณสุขจังหวัด ได้ทำการตรวจสอบตามกระบวนการคัดกรองโรคอย่างเข้มงวด ก่อนจะแยกส่งกลับไปกักตัวดูอาการเป็นเวลา 14 วัน โดยได้แบ่งกลุ่มผู้ที่เดินทางกลับจากประเทศซาอุดิอาระเบีย เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นชาวจังหวัดสงขลาและกลุ่มผู้ที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดอื่น ๆ นอกเหนือจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจังหวัดสงขลาจะรับดูแลทั้งหมด ส่วนผู้ที่อยู่ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสตูล ได้ประสานให้มีรถมารับกลับภูมิลำเนาเรียบร้อยแล้ว
พร้อมกันนี้ยังมีคำสั่งปิดด่านปาดังเบซาร์ เพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อขั้นสูงและคาดว่าจะมีการย้ายไปใช้ด่านสะเดา เพื่อรองรับคนไทยกลุ่มตกค้างเดินทางกลับประเทศแทน