แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ COVID-19 ตามแนวชายแดนและแผนการสกัดกั้นผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา ติดตามสถานการณ์ COVID-19 ตามแนวชายแดนและแผนการสกัดกั้นผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พร้อมเน้นย้ำทุกฝ่ายการ์ดอย่าตก แม้ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม
วันนี้ (11 ส.ค. 63) ที่ห้องประชุมด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พลตรี เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา ติดตามสถานการณ์ COVID-19 ตามแนวชายแดน และแผนการสกัดกั้นผู้หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย พร้อมเน้นย้ำทุกฝ่ายการ์ดอย่าตก แม้ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม โดยมีนายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายนฤทธิ์ มงคลศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายวรณัฏฐ์ หนูรอต ปลัดจังหวัดสงขลา นายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอสะเดา นายแพทย์ อุทิศศักดิ์หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา นายอาทิตย์ วิสุทธิสมาจาร นายด่านศุลกากรสะเดา หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เพื่อรายงานสถานการณ์และรับฟังนโยบายเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
สำหรับสถานการณ์ พบว่าปัจจุบันมีการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในประเทศมาเลเซีย ภายในรัฐเคดาห์ และรัฐเปอลิส ซึ่งมีพื้นที่ติดกับชายแดนของประเทศไทย โดยพื้นที่การแพร่ระบาดดังกล่าวอยู่ห่างจากด่านพรมแดนสะเดาประมาณ 18 กิโลเมตร จังหวัดสงขลาจึงได้เพิ่มมาตรการความเข้มงวดในการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่เพื่อสกัดกั้นการกระทำผิดตามกฏหมายและป้องกันการลักลอบเข้าเมืองตามแนวชายแดนในพื้นที่จังหวัดสงขลา ของประชาชนชาวไทย และบุคคลต่างด้าวในประเทศเพื่อนบ้านที่ยังตกค้างและไม่สามารถเดินทางออกมาได้
ทั้งนี้ การดำเนินงานที่ผ่านมา หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ได้ดำเนินการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจในพื้นที่ช่องทางธรรมชาติตลอดแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย จัดตั้งจุดตรวจจุตสกัดแบบประจำที่ และไม่ประจำที่ ตามเส้นทางที่เป็นคมคมนาคมสำคัญ ที่จะเคลื่อนที่เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศได้ โดยพื้นที่ปฏิบัติการ คือพื้นที่แนวชายแดนด้านจังหวัดสตูล และจังหวัดสงขลาติดต่อกับรัฐเปอร์ลิส และรัฐเคดาห์ ของประเทศมาเลเซีย แบ่งออกเป็น 3 พื้นที่ ประกอบด้วย พื้นที่ปฏิบัติการที่ 1 จังหวัดสตูล, พื้นที่ปฏิบัติการที่ 2 อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และพื้นที่ปฏิบัติการที่ 3 อำเภอนาทวีและอำเภอสะบ้าย้อย
ซึ่งผลการปฏิบัติงานในห้วงวันที่ 1 เมษายน 2563 จนถึงปันจุบัน มีการจับกุมบุคคลต่างด้าวที่ลักลอบเข้าประเทศโดยผิดกฏหมาย จำนวน 62 ราย และคนไทย จำนวน 109 ราย พร้อมทั้งได้ดำเนินการคัดกรองโรคจากเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศสะเดา และส่งกักตัว 14 วัน ณ สถานีตำรวจภูธรสะเดา จังหวัดสงขลา เพื่อรอดำเนินคดีตามกฎหมายและผลักดันกลับประเทศต่อไป
ศิริลักษณ์ แคล้วคลาด/ข่าว /ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
