​ “คลินิกแก้หนี้ …ปรับเงื่อนไข เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID 19”


19 ส.ค. 2563

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจาก COVID 19 ครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 ซึ่งมาตรการครอบคลุมสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเช่าซื้อ ลิสซิ่ง สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อธุรกิจ SMEs ปรากฏว่ามาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย บางส่วนได้ครบกำหนดไปแล้วในเดือนมิถุนายน 2563 ซึ่งผู้ให้บริการทางการเงินหลายรายได้ให้ความช่วยเหลือแก่ลูกหนี้มากกว่ามาตรการขั้นต่ำที่ ธปท. กำหนด โดยลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับการช่วยเหลือส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล

อย่างไรก็ดี หนึ่งในเงื่อนไขสำคัญของการเข้าร่วมมาตรการให้ความช่วยเหลือฯ คือ ลูกหนี้ต้องไม่เป็น NPLs (ค้างชำระหนี้เกิน 3 งวดติดต่อกัน) ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 คำถามสำคัญคือแล้วประชาชนที่มีหนี้เป็น NPLs แล้ว จะได้รับความช่วยเหลือได้อย่างไรบ้าง?

ที่ผ่านมา ธปท. ได้ให้ความสำคัญกับลูกหนี้กลุ่มดังกล่าว จึงได้จัดตั้งโครงการแก้ไขปัญหาหนี้อย่างเป็นระบบและเบ็ดเสร็จสำหรับหนี้ส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน (บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน) ในนาม “โครงการคลินิกแก้หนี้” ตั้งแต่ปี 2560 โดยได้รับความร่วมมือจาก สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ และบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (SAM) ซึ่งได้มีการปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์โครงการและคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมเรื่อยมา เพื่อให้สามารถช่วยแก้ปัญหาหนี้ดังกล่าวได้มากขึ้น โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2563 ได้มีการปรับเงื่อนไขเพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID 19 สรุปรายละเอียดคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ ได้ดังนี้

ความพิเศษของโครงการคลินิกแก้หนี้คือ ลูกหนี้จะได้รับข้อเสนอที่ช่วยให้การแก้ไขหนี้ได้ผลจริง มีโอกาสหลุดพ้นจากวังวนแห่งหนี้ โดย (1) จะเป็นการผ่อนชำระเฉพาะเงินต้นที่ค้าง มีระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุดถึง 10 ปี ในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนพิเศษประมาณ 4 - 7% ต่อปี ตัวอย่างเช่น มียอดหนี้เงินต้น 128,000 บาท ผ่อนชำระ 10 ปี จะมียอดผ่อนต่อเดือนประมาณ 1,300 บาท และจะได้รับยกเว้นดอกเบี้ยที่ค้างชำระทั้งหมดเมื่อชำระหนี้เสร็จสิ้นตามสัญญาของโครงการ (2) มี SAM ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเจรจาระหว่างผู้ให้บริการทางเงิน (เจ้าหนี้) และลูกหนี้ หากมีเจ้าหนี้ 2 รายขึ้นไป จะเป็นการรวมหนี้เบ็ดเสร็จก้อนเดียว ไม่ถูกทวงถามจากเจ้าหนี้หลายราย รวมทั้งจะได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาและปรับโครงสร้างหนี้

เรียกได้ว่า โครงการคลินิกแก้หนี้ เป็น “เครือข่ายที่ช่วยเหลือประชาชนแก้หนี้บัตร” ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ หากคุณผู้อ่านสนใจ ก็สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ผ่านเว็บไซต์ www.คลินิกแก้หนี้.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02-610-2266 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-17.00 น. ทั้งนี้ในพื้นที่ภาคใต้ มีสำนักงาน SAM ตั้งอยู่ที่อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี นอกจากนี้ยังมีช่องทางให้ติดตามข่าวสารได้จาก Line และ Facebook เช่นกัน

ผู้จัดทำ : ญาณิศรา ศตะรัต

ผู้วิเคราะห์อาวุโส ส่วนคุ้มครองและให้ความรู้ผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้

บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความคิดเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย