ประกันสังคมสงขลา มอบโล่ประกาศเกียรติคุณเชิดชูเกียรติสถานประกอบการต้นแบบ จำนวน 13 ราย


23 ส.ค. 2563

สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสงขลา มอบโล่ประกาศเกียรติคุณเชิดชูเกียรติสถานประกอบการต้นแบบ จำนวน 13 ราย ที่ปฏิบัติตามกฎหมายประกันสังคมถูกต้อง

(21 ส.ค.63) ที่ห้องประชุมสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 12 สงขลา นางสุรียพรรณ์ ณ สงขลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการประกันสังคมจังหวัด ครั้งที่ 4/2563 ก่อนวาระการประชุม ได้มีพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ เพื่อเชิดชูเกียรติแก่สถานประกอบการที่มีสถานะยังดำเนินการอยู่ มีลูกจ้างไม่น้อยกว่า 50 คน ไม่มีหนี้ค้างชำระย้อนหลัง 5 ปี มีการชำระเงินสมทบถูกต้อง ตรงตามกำหนดเวลา และส่งเงินสมทบด้วยสื่ออิเล็คทรอนิค ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อเป็นแรงจูงใจและกระตุ้นให้สถานประกอบการให้นำส่งเงินสมทบภายในกำหนด โดยมีสถานประกอบการที่ผ่านการคัดเลือก จำนวน 13 ราย ได้แก่ โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์/บริษัทไทยยูเนี่ยน ซีฟู้ด จำกัด/ บริษัท แปซิฟิคแปรรูปสัตว์น้ำ บริษัท อดิศรสงขลา จำกัด /บริษัท รักษาความปลอดภัยทักษิณเซฟตี้ จำกัด/ บริษัทพิธานพาณิชย์ จำกัด/ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซุ่นเฮงก่อสร้าง/โรงแรมเซ็นทรัลสุคนธา/ บริษัท เอ พี เค เฟอร์นิซิ่ง พาราวู้ด จำกัด /บริษัทลิคเลส คอร์ปอเรชั่น จำกัด/ สำนักงานเทศบาลเมืองสะเดา และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เขต 3


โอกาสนี้ นางสาวดวงกมล แก้ววิชิต ประกันสังคมจังหวัดสงขลา ได้รายงาน สถานการณ์บริหารเงินลงทุนกองทุนประกันสังคม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 มี จำนวน 2,114,775 ล้านบาทได้มีการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง คิดเป็นร้อยละ 80 ลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยง คิดเป็นร้อยละ 20 มีผลตอบแทนการลงทุนสะสม ตั้งแต่ปี 2534 - ปัจจุบัน จำนวน 675,782 ล้านบาท และมีเงินลงทุนกองทุนเงินทดแทน ณ 30 มิถุนายน 2563 จำนวน 66,803 ล้านบาท ลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง ร้อยละ 81 ลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยง คิดเป็นร้อยละ 19 มีผลตอบแทนจากการลงทุนสะสม ตั้งแต่ปี 2547-ปัจจุบัน จำนวน 22,417 ล้านบาท

นอกจากนี้ สำนักงานประกันสังคม ได้เพิ่มสิทธิประโยชน์ผู้กันตน กรณีตาย สำหรับผู้ประกันตนใน มาตรา 33 และมาตรา 39 ที่ถึงแก่ความตาย อันมิใช่เนื่องจากการทำงาน จากเดิมจ่ายค่าทำศพ 40,000 บาท เพิ่มเป็น 50,000 บาท มีผลตั้งแต่ 2 กรกฎาคม 2563 โดยมีเงื่อนไขเกิดสิทธิ และสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตน/ผุ้มีสิทธิจะได้รับ โดยต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วอย่างน้อย 1 เดือน ภายในระยะเวลา 6 เดือน ก่อนถึงแก่ความตาย ได้รับสิทธิประโยชน์ เป็น ค่าทำศพ 50,000 บาท จ่ายแก่ผู้จัดการศพ และเงินสงเคราะห์กรณีตาย จ่ายแก่บุคคลที่ผู้ประกันตนทำหนังสือระบุให้เป็นผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์นั้น แต่ถ้าผู้ประกันตนมิได้มีหนังสือระบุไว้ ให้นำมาเฉลี่ยจ่ายแก่สามี หรือ ภริยา บิดา มารดา หรือบุตรผู้ประกันตน ในจำนวนเท่า ๆ กัน

สำหรับวันนี้ ที่ประชุมโดยคณะอนุกรรมการประกันสังคมจังหวัด ได้มีการพิจารณาวินิจฉัยคำขอการเป็นผู้ทุพพลภาพจำนวน 6 ราย.


ศิรินาถ นวประภากุล/ ข่าว