ม.อ. ชูแผนโครงการศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน ขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Medical Hub


17 ต.ค. 2563

ม.อ. ชูแผนโครงการศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน ขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Medical Hub


วันที่ 16 ตุลาคม 2563 ณ โรงแรมเมโทรโพลภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต รองศาสตราจารย์ ดร. พันธ์ ทองชุมนุม รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมระดมความคิดเห็นการดำเนินการสร้างศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากหลายภาคส่วนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดในกลุ่มอันดามัน ทั้งจากหน่วยงานสาธารณสุข หน่วยงานราชการ หอการค้าจังหวัด องค์กรเอกชน ธุรกิจท่องเที่ยว และประชาชนชาวจังหวัดภูเก็ต รวมจำนวน 120 คน

เนื่องด้วยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มีแผนจะดำเนินการสร้างศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต เพื่อให้ประชาชนในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดในกลุ่มอันดามันได้รับบริการรักษาโรคซับซ้อนต่าง ๆ ที่ต้องอาศัยเครื่องมือที่ทันสมัย และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ฯลฯ ซึ่งสถานพยาบาลในพื้นที่ไม่สามารถรองรับได้ รวมถึงการลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการส่งตัวไปรักษาโรคซับซ้อนนอกพื้นที่ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูธุรกิจต่าง ๆ หลังสถานการณ์ COVID-19 ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติระดับ Premium ให้เข้ามาท่องเที่ยวในเชิงสุขภาพ รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมการรองรับสังคมผู้สูงวัย ซึ่งเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มีความพร้อมอย่างมากทั้งบุคลากร เครื่องมือ ความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ โดยได้มีการบรรจุโครงการดังกล่าวในแผนยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ. 2561-2565

สำหรับการจัดประชุมระดมความคิดเห็นในครั้งนี้สืบเนื่องจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้มอบหมายให้ศูนย์พัฒนานวัตกรรมด้านการบริหารจัดการ (MIDC) คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินแผนงานศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ที่สอดคล้องกับบริบทของจังหวัดภูเก็ต เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการดำเนินโครงการต่อไป โดยผู้เข้าร่วมการประชุมจะได้รับฟังข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดของโครงการศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต และจะมีการแบ่งกลุ่มย่อยเพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการสร้างศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ตดังกล่าว

ทั้งนี้โครงสร้างการดำเนินงานของศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน ประกอบด้วย 4 ภารกิจหลัก ได้แก่ (1) โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ภูเก็ต สถานที่ตั้งในวิทยาเขตภูเก็ต เน้นการบริการ Tertiary Care การแพทย์แม่นยำ การแพทย์ทางไกล การบริการนักท่องเที่ยวต่างชาติระดับ Premium การส่งต่อผู้ป่วยระหว่างภูเก็ต-หาดใหญ่ (2) โรงพยาบาลทันตกรรมสงขลานครินทร์ภูเก็ต สถานที่ตั้งบริเวณสะพานหิน เน้นบริการทันตกรรมครบวงจร และการบริการทันตกรรมแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ (3) Wellness Center สถานที่ตั้งในศูนย์กีฬาและที่พักในวิทยาเขตภูเก็ต เน้นการดูแลผู้สูงอายุ การใช้กีฬาบำบัด การใช้แพทย์แผนไทย และ (4) วิทยาลัยสุขภาพนานาชาติ ประกอบด้วย การสร้างบุคลากรวิชาชีพแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัช พยาบาล แพทย์แผนไทย เทคนิคการแพทย์ โดยการเรียนพื้นฐานใช้ที่วิทยาเขตหาดใหญ่ การฝึกปฏิบัติงานระยะแรกใช้ที่โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และโรงพยาบาลเอกชนในภูเก็ตผู้ช่วยศาสตราจารย์ธีรวัฒน์ หังสพฤกษ์ คณบดีคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและขับเคลื่อนให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ก้าวเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ 1 ใน 5 ของอาเซียนสู่ “มหาวิทยาลัยเพื่อนวัตกรรมและสังคม” โดยปัจจุบันมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มีด้วยกัน 5 วิทยาเขต ประกอบด้วย วิทยาเขตหาดใหญ่ วิทยาเขตภูเก็ต วิทยาเขตปัตตานี วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี และวิทยาเขตตรัง และจากยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยที่ต้องการมุ่งเน้นให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) ในปี พ.ศ. 2560-2569 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จึงมีแผนที่จะดำเนินการตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติด้วยการสร้างศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต เพื่อให้ประชาชนในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดในกลุ่มอันดามันได้รับบริการรักษาโรคซับซ้อนต่าง ๆ ที่ต้องอาศัยเครื่องมือที่ทันสมัย และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ ซึ่งสถานพยาบาลในพื้นที่ไม่สามารถรองรับได้จึงต้องส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลที่มีความพร้อมมากกว่า หนึ่งในนั้น คือ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทำให้ประชาชนในจังหวัดกลุ่มอันดามันเสียโอกาสในการดูแลสุขภาพที่เกิดจากการขาดความพร้อมของระบบสาธารณสุขในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งประชาชนในจังหวัดชายฝั่งอันดามันมีปัญหาการเข้าถึงระบบการให้บริการด้านสุขภาพในโรคที่มีความซับซ้อน โดยพบว่าปี 2562 มีผู้ป่วยในจังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ ที่ต้องส่งต่อไปยังโรงพยาบาลระดับสูงในพื้นที่อื่น ๆ จำนวน 9,036 คน คิดเป็น 13,542 ครั้ง และเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่สูงมากของประชาชน

นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูธุรกิจต่าง ๆ หลังสถานการณ์ Covid-19 ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติระดับ Premium ให้เข้ามาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า พื้นที่ในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันมีกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวที่หนาแน่นมากของประเทศ รวมทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมการรองรับสังคมผู้สูงวัย ซึ่งเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพราะประเทศไทยเริ่มเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงเป็นสังคมผู้สูงวัยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 และคาดการณ์ว่าใน ปี พ.ศ. 2573 ประเทศไทยจะเข้าสู่ระดับสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ ซึ่งประเทศไทยมีสัดส่วนผู้สูงอายุร้อยละ 19.45 และจะเข้าสู่ระดับสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มที่ในปี พ.ศ. 2593 จากการคาดการณ์ดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มความต้องการทางด้านสาธารณสุขที่เพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย