​"ทุเรียนเมืองสะเดา" ดร.ถาวร รวมกลุ่มเกษตรกรร่วมสร้างสะเดาเป็นศูนย์รวมทุเรียนพันธุ์ดี


"ดร.ถาวร เรืองวรุณวัฒนา" จุดประกายการสร้างจุดขายใหม่ให้เมืองสะเดาเป็นศูนย์รวมทุเรียนพันธุ์ดี พร้อมปั้นโปรเจกต์ "ทุเรียนเมืองสะเดา" รวมกลุ่มเกษตรกรที่รักการปลูกทุเรียน จัดประกวดทุเรียนเพื่อเฟ้นหารวบรวมทุเรียนพื้นเมืองพันธุ์ดี สร้างแบรนด์ สร้างช่องทางการตลาดรองรับผลผลิตที่จะออกเต็มที่ใน 3-4 ปีข้างหน้า


อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เป็นอำเภอที่มีพรมแดนติดประเทศมาเลเซีย มีเส้นทางเชื่อมโยงกันทั้งทางบกและทางรถไฟที่มีมีมูลค่าการค้าระหว่างประเทศสูงสุด และยังเป็นประตูสู่ประเทศไทยที่สำคัญอีกหนึ่งแห่งด้วย และสะเดายังเป็นเมืองใหญ่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติสูงมาก จากข้อมูลของกยท.ระบุว่าอำเภอสะเดา คือพื้นที่ปลูกยางพารามากที่สุดในจังหวัดสงขลา

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาราคายางพารามีความผันผวนมาก "ดร.ถาวร เรืองวรุณวัฒนา" นักธุรกิจด้านยางพารารายใหญ่ของอำเภอสะเดา และระดับแนวหน้าของประเทศไทย เป็นผู้ที่มีความชื่นชอบการกินทุเรียนเรียกว่าถ้าเขาบอกว่าทุเรียนที่ไหนอร่อยต้องไปหามาชิมมารับประทาน รวมถึงการนำมาปลูกและชักชวนให้ชาวสะเดามาร่วมกันปลูกจนเกิดเป็นกลุ่มคนรักการปลูกทุเรียนอำเภอสะเดา โดยมีสำนักงานเกษตรอำเภอสะเดา เป็นพี่เลี้ยง และ ดร.ถาวร เป็นประธานกลุ่มฯ

เมือวันที่ 27 ตุลาคม 2563 ณ ศาลาประชาคมอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ดร.ถาวร เรืองวรุณวัฒนา ประธานกลุ่มคนรักการปลูกทุเรียนอำเภอสะเดา เป็นแม่งานใหญ่ร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอสะเดา จัดการอบรมถ่ายทอดความรู้การปลูกและการดูแลรักษาทุเรียน ให้กับสมาชิกในกลุ่มรวมถึงผู้ที่สนใจเข้าร่วมอบรม โดยมีนางสุดา ยาอีด เกษตรอำเภอสะเดา ผู้แทนนายอำเภอสะเดา ส่วนราชการ ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์การเกษตร วิทยากรผู้ที่เชี่ยวชาญมาร่วมให้ความรู้

ช่วงแรกของการอบรมมีนายถาวร อนิวัฒน์ ซึ่งมีประสบการณ์ในการทำสวนทุเรียนมากว่า 30 ปี ในจังหวัดชุมพร ได้ให้ความรู้เกี่ยวการปลูกทุเรียนในระยะต่างๆ ทุกขั้นตอนอย่างละเอียด ต่อด้วยการอบรมการจัดการระบบสวน การจัดการระบบน้ำ การดูแลรักษาทุเรียนที่ให้ผลผลิตแล้ว การแบ่งกลุ่มเข้าฐานเรียนรู้ 4 ฐาน ได้แก่ฐานที่ 1 การตรวจวิเคราะห์ดิน ฐานที่ 2 การผสมปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ฐานที่ 3 โรคและแมลงศัตรูทุเรียน ฐานที่ 4 การผลิตเชื้อราไตรเคอร์เดอร์ม่า พร้อมทั้งวิธีป้องกันและรักษาโรคในทุเรียน

ดร.ถาวร เรืองวรุณวัฒนา ประธานกลุ่มคนรักการปลูกทุเรียนอำเภอสะเดา เปิดเผยถึงการจัดการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ว่าเพื่อเป็นการพบปะเพื่อนๆ ในกลุ่มคนรักการปลูกทุเรียน ซึ่งตอนนี้มีจำนวนกว่า 200 คน ได้พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในเรื่องหรือปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวกับการปลูก การดูแลรักษาโรคต่างๆ ในทุเรียน ซึ่งได้กำหนดให้มีการจัดกิจกรรมปีละ 3 ครั้ง โดยเป็นเวทีพูดคุยแบบเป็นกันเอง มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ มาให้ความรู้เพิ่มเติมแก่เกษตรกร


วันนี้กลุ่มคนรักการปลูกทุเรียนอำเภอสะเดา มีมากกว่า 200 คน พื้นที่ปลูกรวมเกือบ 2,000 ไร่ ยังไม่รวมสวนดั้งเดิมและที่ยังไม่ได้รวมกลุ่มก็มีอีกมาก ส่วนตัวอยากจะผลักดันให้ทุเรียนในอำเภอสะเดา มีชื่อเสียงเมื่อกล่าวถึงชื่อทุเรียนเมืองสะเดา ทุกคนต้องรู้จักต้องอยากมาชิม ต่อไปหากใครอยากกินทุเรียนไม่ต้องนั่งรถไปไกลถึงเบตง หรือไปภาคตะวันออก แต่ให้เมืองสะเดา เป็นอีกทางเลือกของคนชอบทุเรียน

ในส่วนของการตลาดเชื่อว่าไม่มีปัญหาเนื่องจากประเทศจีน มีคนนิยมบริโภคทุเรียนจำนวนมากเราได้มีการพูดคุยและวางแผนกันล่วงหน้าเพื่อรองรับผลิตที่จะออกมาในอีกประมาณ 3-4 ปีข้างหน้า โดยมองไปที่ตลาดในโลกออนไลน์ สร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ สร้างแพลตฟอร์มการจัดจำหน่ายขึ้นมาเองโดยเฉพาะ จัดหาบรรจุภัณฑ์ที่ใส่ทุเรียนได้โดยไม่มีกลิ่นออกสู่ภายนอก การแปรรูปทุเรียน ซึ่งได้เตรียมการไว้รองรับล่วงหน้าแล้ว

ทางด้านนายวีระศักดิ์ สงวนสิน สมาชิกกลุ่มคนรักการปลูกทุเรียนอำเภอสะเดา (ดูแลด้านการตลาด) กล่าวเสริมว่าการสร้างทุเรียนเมืองสะเดา ให้เป็นที่รูกจักอย่างกว้างขวางจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในปี 2564 ซึ่งจะมีการจัดเทศกาลทุเรียนขึ้นในพื้นที่อำเภอสะเดา ประกวดพันธุ์ทุเรียนบ้าน ทุเรียนพื้นเมือง และทุเรียนพันธุ์ต่างๆ ในอำเภอสะเดา เพื่อคัดหาสายพันธุ์ทุเรียนใหม่ๆ ซึ่งเป็นทุเรียนที่มีถิ่นกำเนิดในสะเดาโดยตรง

ส่วนการขายในโลกออนไลน์เราจะมีแพลตฟอร์ม สวนทุเรียนทุกสวนจะมีคิวอาร์โค้ดเป็นของตัวเอง รับรองคุณภาพโดยเกษตรอำเภอ เพื่อสร้างคุณค่าของผลผลิตเราจะควบคุมตั้งแต่เริ่มต้น การเก็บเกี่ยวต้องเป็นลูกสุกเต็มที่เท่านั้น กรณีสินค้ามีปัญหาต้องมีของใหม่ทดแทนให้ลูกค้าทันที ซึ่งน่าจะใช้ทุเรียนป่าละอู เป็นโมเดลในการนำมาประยุกต์ขับเคลื่อนในรูปแบบของเราต่อไป ในเร็วๆ นี้จะมีการเปิดแฟนเพจและแพลตฟอร์มการตลาด เพื่อให้ผู้สนใจได้ติดตามข้อมูลความเคลื่อนไหวล่วงหน้ากันได้ง่ายยิ่งขึ้น



เนื้อหานี้ในภาษาอื่น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง/บทความที่น่าสนใจ

  • แอป Maxim มอบม้านั่งให้กับเทศบาลนครสงขลา สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานและการท่องเที่ยว
    แอป Maxim มอบม้านั่งให้กับเทศบาลนครสงขลา สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานและการท่องเที่ยว
  • หาดทิพย์ ติดทำเนียบหุ้น ESG100 เป็นปีที่ 7
    หาดทิพย์ ติดทำเนียบหุ้น ESG100 เป็นปีที่ 7
  • โรงไฟฟ้าจะนะได้รับการรับรอง ISO14001: 2015 และ ISO45001:2018
    โรงไฟฟ้าจะนะได้รับการรับรอง ISO14001: 2015 และ ISO45001:2018
  • มูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็ง หาดใหญ่ พร้อมจัดใหญ่งานไถ่ชีวิตโค 21-30 ก.ค.67
    มูลนิธิโรงเจเต๋าบ้อเก็ง หาดใหญ่ พร้อมจัดใหญ่งานไถ่ชีวิตโค 21-30 ก.ค.67
  • พาณิชย์-หอการค้าสงขลา ผนึกกำลังจัดงาน SMEs Fair 19-21 ก.ค.ที่ห้างบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า หาดใหญ่
    พาณิชย์-หอการค้าสงขลา ผนึกกำลังจัดงาน SMEs Fair 19-21 ก.ค.ที่ห้างบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า หาดใหญ่
  • แอร์เอเชีย เปิดบิน “สุวรรณภูมิ-หาดใหญ่” คึกคัก   ตอบรับกระเเสท่องเที่ยวในประเทศพุ่ง
    แอร์เอเชีย เปิดบิน “สุวรรณภูมิ-หาดใหญ่” คึกคัก ตอบรับกระเเสท่องเที่ยวในประเทศพุ่ง
  • มันนี่ เอ็กซ์โป 2024 หาดใหญ่ ยกโปรฯ ล่องใต้ กู้บ้าน 0% 3 เดือน เงินฝาก 2.25% NPA ลดสูงสุด 60%
    มันนี่ เอ็กซ์โป 2024 หาดใหญ่ ยกโปรฯ ล่องใต้ กู้บ้าน 0% 3 เดือน เงินฝาก 2.25% NPA ลดสูงสุด 60%
  • แอร์เอเชีย ชวนชาวหาดใหญ่ บินสะดวกกว่าสู่ 2 สนามบิน "ดอนเมือง และ สุวรรณภูมิ" ราคาเที่ยวเดียวเริ่มต้นที่ 990 บาท!
    แอร์เอเชีย ชวนชาวหาดใหญ่ บินสะดวกกว่าสู่ 2 สนามบิน "ดอนเมือง และ สุวรรณภูมิ" ราคาเที่ยวเดียวเริ่มต้นที่ 990 บาท!
  • ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ มรภ.สงขลาจับมือธ.ออมสินภาค 18 ร่วมโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น
    ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจ มรภ.สงขลาจับมือธ.ออมสินภาค 18 ร่วมโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น
  • ม.อ. ผนึกหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐ-เอกชนจัดงาน SITE2024
    ม.อ. ผนึกหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐ-เอกชนจัดงาน SITE2024
  •  เปอโยต์ ร่วมเฉลิมฉลองวันชาติฝรั่งเศส จัดงาน ‘VIVE LA FRANCE’ เพิ่ม 3 รุ่นพิเศษ ราคาใหม่ เพิ่มเสน่ห์เร้าใจยิ่งขึ้น
    เปอโยต์ ร่วมเฉลิมฉลองวันชาติฝรั่งเศส จัดงาน ‘VIVE LA FRANCE’ เพิ่ม 3 รุ่นพิเศษ ราคาใหม่ เพิ่มเสน่ห์เร้าใจยิ่งขึ้น