นิด้าโพล ชี้เลือกตั้งอบจ.สงขลาแข่งกันสูสี ลุ้นจุดเปลี่ยนจากพลังเงียบที่ยังไม่ตัดสินใจ
นิด้าโพล เปิดผลสำรวจการตัดสินใจเลือกนายกอบจ.ใน 3 สนามใหญ่ของประเทศ ที่สงขลา โพลชี้ผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่ตัดสินใจเลือก ส่วนที่ตัดสินใจแล้วเลือกสุชาตินำหน้าไพเจนเล็กน้อย ผู้สันทัดกรณีชี้โค้งสุดท้ายแข่งกันสนุกถึงตอนนี้ยังมองไม่ออกว่าใครแรงกว่า
สำหรับผลสำรวจบุคคลที่ประชาชนจะลงคะแนเลือกเป็นนายกอบจ.สงขลา อันดับ 1 ร้อยละ 39.26 ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร อันดับ 2 ร้อยละ 21.57 เลือกพันเอกสุชาติ จันทรโชติกุล อันดับ 3 ร้อยละ 20.65 เลือกนายไพเจน มากสุวรรณ์ อันดับ 4 ร้อยละ 5.01 เลือกนายจะเด็ด เหมโกทวีทรัพย์ อันดับ 5 ร้อยละ 3.49 ไม่ตอบ อันดับ 6 ร้อยละ 2.73 ไม่ไปลงคะแนนเลือกตั้ง อันดับ 6 ร้อยละ 2.58 เลือกนายวชิรวิทย์ ภัสระ อันดับ 7 ร้อยละ 1.98 เลือกนางสาวอภิญญา ยอดแก้ว อันดับ 8 ร้อยละ 1.67 ไม่ลงคะแนนเลือกใคร ร้อยละ 1.06 เลือกนางภัทรวรรณ ขำตรี
ผลโพลวันนี้ไม่ผิดคาดสำหรับทีมไพเจน เพราะเพิ่งเปิดตัวมาไม่นานและเมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาการรับสมัครเลือกตั้งไม่สามารถให้สส.มาช่วยหาเสียงได้ กลายเป็นมวยไม่มีพี่เลี่ยงที่อาศัยเพียงลูกลุยลูกขยันเดินสายอย่างเต็มที่ การขยับเข้ามาใกล้ห่างเพียงร้อยละ 1 ต่างหากที่ดูแล้วผิดคาดที่คะแนนตีตื้นขึ้นมาเร็วมาก หากเปรียบเทียบกับฝั่งสุชาติ ที่เปิดตัวมาตั้งแต่จบเลือกตั้งสส.ฟอร์มทีมล่วงหน้าทั้งฝ่ายบริหาร สจ.ซึ่งล้วนเป็นคนหน้าใหม่เกือบทั้งหมดแต่อาศัยฐานเสียงการเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลมาเป็นแรงหนุน
ผู้สันทัดกรณีให้ข้อมูลกับทีมข่าวหลังเห็นโพลจากนิด้าว่า เป็นสิ่งที่ไม่ผิดคาดสำหรับคะแนนนำที่ยังเป็นของผู้การชาติ แต่การตีตื้นขึ้นมาของไพเจน สะท้อนอะไรได้หลายอย่างบางคนบอกว่าคะแนนไม่น่าขึ้นมาสูสีเช่นนี้ ช่วงก่อนเลือกตั้งผู้การชาติเดินหน้าไปหลายช่วงตัวมาก ไพเจนใหม่มากในเวทีการเมืองสงขลา ยิ่งถูกห้ามสส.ช่วหาเสียงยิ่งทำให้ขาดสีสันไปเยอะ คะแนนที่เพิ่มขึ้นของไพเจนจึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทีมคู่แข่งต้องทำการบ้านมากขึ้น ยิ่งคะแนนนำเป็นของผู้ไม่ตัดสินใจเลือกใครอีก นี่จึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญว่าหากคะแนนี้เทไปทางไหนฝ่ายนั้นก็ชนะทันที
ล่าสุดพันเอกสุชาติ ด้วยการปักป้ายหาเสียงชุดใหม่พร้อมโลโก้พรรคพลังประชารัฐ ทั้งที่ก่อนหน้านี้พรรคมีมติไม่ส่งผู้สมัครนายกอบจ.ทุกจังหวัด แต่ล่าสุดมีการอนุญาตให้ผู้สมัครที่เป็นสายตรงของพรรคในบางจังหวัดใช้โลโก้พรรคหาเสียงได้ รวมถึงของผู้การชาติ ที่ใช้ทีมสงขลาประชารัฐก็แปลงร่างเป็นพลังประชารัฐอีกครั้ง อย่างไรก็ตามการเดินสายหาเสียงของผู้การชาติ เป็นที่น่าสังเกตุว่าไม่ค่อยมีผู้ที่ถูกวางตัวในฝ่ายบริหารตำแหน่งต่างๆ มาช่วยหาเสียงเลย
ฟากฝั่งทีมไพเจน นับจากเปิดตัวคู่สส.ปชป.ก่อนต้องเก็บป้ายทั้งหมด ปรับมาเปิดคู่ผู้สมัครสจ.เปิดทีมบริหาร และนโยบายต่างๆ ลูกขยันของทีมนี้นอกจากหัวหน้าทีมแล้วในตำแหน่งอื่นๆ ต่างช่วยกันลุยหาเสียง มีทั้งขนาบคู่หัวหน้าทีม มีแยกกันเดินกับผู้สมัครสจ. และเดินสายหาฐานคะแนนที่ตัวเองถนัด การไล่ขึ้นมาตีตื้นตามโพลส่วนสำคัญคงมาจากลูกขยันเป็นตัวช่วยด้วย เกมที่สูสีเช่นนี้อำเภอหาดใหญ่ ที่มีประชากรมากที่สุดโดยเฉพาะในเขตเมืองคงเป็นตัวแปรสำคัญที่จะตัดสินผลแพชนะเหมือนหลายครัง้ที่ผ่านมาก็ได้
เรื่องกระแสถือว่าสูสีส่วนเรื่องกระสุนใครมีมากกว่ากันไม่กล้าฟันธง แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้มีโจมตีกันเรื่องซื้อเสียงมากขึ้นทุกขณะ ส่วนตัวมองว่าการพยายามให้ข่าวในเชิงดิสเครดิตคู่แข่ง โจมตีกันด้วยวาทกรรมต่างๆ เป็นรูปแบบการหาเสียงที่ล้าสมัย การนำเสนอนโยบาย นำเสนอความตั้งใจให้เข้าถึงชาวบ้านมากที่สุดคงตอบโจทย์ได้ดีกว่า ในวันนี้เหลือเวลาอีกเพียง 20 วัน ก็ถึงวันชี้ชะตาแล้วชาวสงขลาล้ากว่าเสียงเท่านั้นที่เป็นผุ้กำหนดอนาคตท้องถิ่นของเรา อย่าลืมออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกัน 20 ธันวาคม 2563 เวลา 08.00-17.00 น.