เลือกตั้งอบจ.สงขลา บทพิสูจน์ศรัทธาประชาธิปัตย์หรือความผิดพลาดของคู่แข่ง
เปิดตัวแค่ 4 เดือนแต่เป็นฝ่ายชนะเลือกตั้งถือเป็นดีกรีไม่ธรรมดาของไพเจน มากสุวรรณ์ ว่าที่นายกอบจ.สงขลา จากทีมพรรคประชาธิปัตย์ ชนะที่หาดใหญ่แต่ไม่ชนะใจคนทั้งจังหวัดนำมาซึ่งความพ่ายแพ้ของสุชาติ จันทรโชติกุล ทีมสงขลาประชารัฐที่มีพรรคพลังประชารัฐเป็นสปอนเซอร์ใหญ่
โดยผลการเลือกตั้งนายกอบจ.สงขลา 20 ธ.ค.63 อันดับ 1 นายไพเจน มากสุวรรณ์ ได้คะแนน 265,475 อันดับ 2 พ.อ.(พิเศษ)สุชาติ จันทรโชติกุล ได้คะแนน 239,786 ผลต่างอยู่ที่ 25,689 คะแนน ซึ่งก็เป็นไปตามคาดที่ผมได้เขียนไว้ตั้งแต่ปิดหีบเลือกตั้งว่าไพเจน จะเป็นฝ่ายชนะแต่ตอนที่ติดตามการนับคะแนนช่วงแรกๆ สารภาพว่าเหมือนจะถอดใจคิดว่าผู้การชาติคงเป็นฝ่ายชนะไปแล้ว เพราะจากการตระเวนตามหน่วยเลือกตั้งในหาดใหญ่ คะแนนของทีมผู้การนำเกือบทุกหน่วย
แต่เมื่อติดตามที่วอลลรูมรวมคะแนนทำให้เห็นภาพคะแนนต่างอำเภอว่าไพจน แรงกว่าเกือบทุกอำเภอส่วนที่หาดใหญ่ผลแพ้ชนะไม่ทิ้งห่างกันมากและผลสรุป ไพเจน มากสุวรรรณ์ คือผู้กุมชัยชนะเป็นว่าที่นายกอบจ.สงขลาคนใหม่ ว่ากันตามเนื้อผ้า ไพเจน มากสุวรรณ์ เปิดตัวก่อนถึงวันเลือกตั้งแค่ 4 เดือนนิดๆ ถูกหาว่ามาเป็นมวยแทน พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ที่หาเสียงในนามพรรคมาก่อนบ้างแล้ว มวยใหม่แต่พี่เลี้ยงดีเพราะเป็นครั้งแรกที่ ถาวร เสนเนียม และนิพนธ์ บุญญามณี สนับสนุนผู้สมัครคนเดียวกัน แถมยังมีสส.เดชอิศม์ ขาวทอง หรือนายกชาย ซึ่งมีที่มาของชื่อจากตำแหน่งนายกอบจ.สงขลานี่แหละเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการหาเสียงตอนแรก ผนึกกับ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.ผู้กว้างขวางในพื้นที่อำเภอโซนชายแดน
แต่เมื่อเข้าช่วงเลือกตั้งมีจุดผันแปรอีกรอบเมื่อกกต.ห้ามไม้ให้สส.ผู้ช่วยสส.ข้าราชการการเมืองในตำแหน่งอื่นๆ มาช่วยหาเสียง ห้ามขึ้นป้ายคู่ ห้ามขึ้นปราศรัย ทำได้แค่เป็นสปอนเซอร์เบื้องหลัง หากให้มองจุดแข็งไพเจน คำตอบจากความรู้สึกส่วนตัวคืออยู่ที่ไพเจนและทีมงานฝ่ายบริหารเกือบทุกคนคือจุดแข็งของทีม เรียบๆ ง่ายๆ ลุยๆ บ้านๆ คือเสน่ห์ของเขา ไม่เสียงดัง ไม่คำหยาบ ไม่ว่าใคร คือสิ่งที่เขาทำบนเวทีปราศรัย ส่วนที่มฝ่ายบริหารอาจถูกมองเป็นจุดอ่อนเพราะส่วนใหญ่คือตัวแทนของสส.ปชป.แต่ทุกคนกลับทำงานหนักจนกลายเป็นจุดแข็งของทีมได้
น้ำหอม สุภาพร กำเนิดผล ถูกโจมตีเยอะเพราะเป็นภรรยาสส.เดชอิศม์ แต่เธอกลับลุยพื้นที่อย่างหนักเรียกว่าไปทุกพื้นที่ ลุยแบบไม่ห่วงสวยแถมมีรอยยิ้มที่จริงใจ และวาจาอ่อนหวานเป็นที่ประทับใจต่อทุกคนที่ได้เจอเรียกได้ว่าไปตรงไหนก็แฟนคลับเพียบ ดร.อับดลหรอหมาน กาเหย็ม เป็นอีกคนที่มาแบบเรียบๆ แต่มีผลงานและความดีมัดใจชาวบ้าน โดยเฉพาะชาวมุสลิม ปราศรัยแบบให้ความรู้มากกว่าส่วนสไตล์นักการเมืองก็ยกให้อดีตสส.ชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว ทำหน้าไป การรับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาและมาขึ้นเวทีของพี่หลวงคร สาคร ทองมุณี ก็เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งว่าทีมมีความเป็นหนึ่งเดียว
ทีมเลขาก็ไม่ธรรมดา ปรินดา ปาลาเร่ ก็ขยันลงพื้นที่และเป็นตัวแทนสตรีมุสลิมในตำแหน่งฝ่ายบริหาร มีส่วนสำคัญในการดึงฐานเสียงในพื้นที่ได้เป็นอย่างดีบวกกับสจ.เก่าทำให้ชนะทุกเขตในพื้นที่โซนจะนะ เทพา นาทวึ ส่วนที่หาดใหญ่เที่ยวนี้ปชป.พ่ายแพ้แต่ไม่ถึงกับเสียฟอร์ม เพราะคู่แข่งได้อดีตลูกหม้ออย่างไพร พัฒโน ไปช่วยหาเสียงเต็มที่แต่เลขานิพัฒน์ อุดมอักษร นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงก็สกัดและดึงคะแนนมาให้ทีมได้จำนวนมากแม้จะได้สจ.มาแค่ 3 จาก 10 แต่คะแนนนายกทั้งอำเภอแพ้แค่หมื่นนิดๆ จึงไม่เสียหายมากเมื่อรวมกันทั้งจังหวัดยังเป็นฝ่ายชนะ
ไล่ดูคะแนนรายอำเภอ ไพเจน ชนะถึง 12 อำเภอ โซนที่ชนะขาดมีเทพา สะเดา รัตภูมิ จะนะ เมือง กระแสสินธุ์ สิงหนคร ควนเนียง บางกล่ำ ส่วนสุชาติ 12 อำเภอ มีเพียงหาดใหญที่ชนะหมื่นกว่าที่เหลือแค่เฉียดฉิวทำให้คะแนนรวมสู้ไม่ได้ และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่คะแนนหาดใหญ่ สวนทางกับคะแนนส่วนใหญ่ของจังหวัดหากถามว่าปัจจัยมาจากอะไร มองได้หลายมุมคือ คนเมืองเขาพร้อมที่จะเปลี่ยนโดยไม่ยึดติดกับสจ.เก่า คนเมืองอาจชื่นชอบนายกรัฐมนตรี และอีกเหตุผลที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ฐานคะแนนอดีตนายกไพร พัฒโน
สจ.เขต1-4 อยู่ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ทีมสุชาติเข้าวินหมดทั้งที่เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ นอกจากคะแนนที่เป็นฐานเสียงไพรแล้วข่าวว่าช่วงท้ายๆ ทีมผู้การชาติหันมาลุยพื้นที่หาดใหญ่หนักมากเพราะประเมินว่านี่คือพื้นที่ชี้ขาดชัยชนะเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา แต่เที่ยวนี้ชัยชนะที่หาดใหญ่ไม่เพียงพอที่จะพาผู้การและทีมงานฝ่ายบริหารเข้าวินได้
พูดถึงฝ่ายบริหารก็นับว่าเป็นอีกเหตุผลของความพ่ายแพ้ของทีมในครั้งนี้ด้วย เพราะรายชื่อที่นำเสนอมาเป็นคนที่ชาวบ้านรู้จักน้อยมาก ไม่ได้มีผลงานที่มาช่วยดึงคะแนนให้ทีมได้ ผู้ขึ้นปราศรัยหลายคนไม่มีมนต์เสน่ห์สะกดคนฟังให้คล้อยตามแถมบางคนยังทำให้เสียคะแนนอีกด้วยต่างหาก จึงไม่แปลกที่ช่วงหลังจะได้เห็นการพยามยามเอานโยบายรัฐบาลมาช่วยเป็นจุดขายของทีมด้วยทั้งที่เป็นคนละส่วนกัน
พูดถึงสจ.เที่ยวนี้เริ่มมีบทพิสูจน์ในหลายพื้นที่แล้วว่าคน คนสำคัญกว่าพรรค หรือทีม อย่างอำเภอเมือง วิชัย กุหลาบวรรณ และนราเดช คำทัปน์ ถือเป็นอดีตสจ.ที่ยังเหนียวแน่ในพื้นที่ ปชป.จึงโค่นไม่ได้ ที่สะเดา 3 เขตมีครบทั้งอิสระ ปชป. พปชร.ที่นี่ถื่อว่าตัวบุคคลสำคัญมากต่อชัยชนะทั้ง 3 เขต ที่บางกล่ำและควนเนียงผู้สมัครอิสระที่มีความโดดเด่นกว่าคนมีทีมก็เป็นฝ่ายชนะได้เช่นเดียวกัน ซึ่งตรงจุดนี้ที่นำเสนออยากบอกให้คนที่สนใจการเมืองว่าหากมีความตั้งใจจริง ทำงานต่อเนื่องโอกาสที่จะชนะใจชาวบ้านก็มีมากไม่จำเป็นต้องรอสังกัดทีม สังกัดพรรคเพียงอย่างเดียว
สรุปรายงานผลคะแนนเลือกตั้ง สมาชิกฯ และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา 2563 อย่างไม่เป็นทางการ รายชื่อผู้ที่ได้รับคะแนนมากที่สุดและได้ชนะการเลือกตั้ง มีดังนี้
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา
อันดับ 1. นายไพเจน มากสุวรรณ ได้คะแนน 265,475
อันดับ 2. พ.อ.(พิเศษ)สุชาติ จันทรโชติกุล ได้คะแนน 239,786
อันดับ 3. นายจะเด็ด เหมโกทวีทรัพย์ ได้คะแนน 63,894
อันดับ 4. นางภัทราวรรณ ขำตรี ได้คะแนน 6,960
อันดับ 5. นางสาวอภิญญา ยอดแก้ว ได้คะแนน 5,333
อันดับ 6. นายวชิรวิทย์ ภัสระ ได้คะแนน 5,028
สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (คะแนนของผู้สมัครลำดับอื่นๆ ดูได้จากเอกสารประกอบข่าว)
อำเภอหาดใหญ่ เขต 1 นายสุพรชัย ผกาวรรณได้คะแนน 5,646 พปชร.
อำเภอหาดใหญ่ เขต 2 นายพีระพงษ์ บุญเลิศ ได้คะแนน 5,575 พปชร.
อำเภอหาดใหญ่ เขต 3 นายสวิชญ์พล พิชัยรัตน์ ได้คะแนน 5,300 พปชร.
อำเภอหาดใหญ่ เขต 4 นายนิติธร จินดามณี ได้คะแนน 4,859 พปชร.
อำเภอหาดใหญ่ เขต 5 นายศุภวัฒน์ กลับกลาย ได้คะแนน 8,208 พปชร.
อำเภอหาดใหญ่ เขต 6 นายทวีศักดิ์ อรัญดร ได้คะแนน 4,631 ปชป.
อำเภอหาดใหญ่ เขต 7 ด.ต.สุรินท์ ปานดำรงค์ ได้คะแนน 9,679 พปชร.
อำเภอหาดใหญ่ เขต 8 นางสาวเวทิดา การันสันติ ได้คะแนน 6,288 อิสระ
อำเภอหาดใหญ่ เขต 9 นายอาซีด หลำเบ็นสะ ได้คะแนน 6,253 ปชป.
อำเภอหาดใหญ่ เขต 10 นายณัฐวุฒิ เกิดสุวรรณ ได้คะแนน 8,575 ปชป.
อำเภอเมืองสงขลา เขต 1 นายวิชัย กุหลาบวรรณ ได้คะแนน 5,484 พปชร.
อำเภอเมืองสงขลา เขต 2 นายศิริชัย เอกพันธ์ ได้คะแนน 6,673 ปชป.
อำเภอเมืองสงขลา เขต 3 นายนราเดช คำทัปน์ ได้คะแนน 6,870 พปชร.
อำเภอเมืองสงขลา เขต 4 นายพรชัย พานิชกรณ์ ได้คะแนน 8,887 ปชป.
อำเภอสะเดา เขต 1 นายบรรพต สิงห์หนู ได้คะแนน 8]123 อิสระ
อำเภอสะเดา เขต 2 นายโอภาส บุญโสภา ได้คะแนน 5,365 พปชร.
อำเภอสะเดา เขต 3 นายพิทักษ์ พฤกษานุศักดิ์ ได้คะแนน 8,372 ปชป.
อำเภอจะนะ เขต 1 นายเสรี เหล๊าะเหม ได้คะแนน 10,896 ปชป.
อำเภอจะนะ เขต 2 นายอริย์ธัช ทองเพชร ได้คะแนน 11,674 ปชป.
อำเภอนาทวี เขต 1 นางพิรญาณ์ เสนะพันธุ์ ได้คะแนน 6,828 ปชป.
อำเภอนาทวี เขต 2 นายธนิศร์ ทองสุข ได้คะแนน 7,383 ปชป.
อำเภอเทพา เขต 1 นายวรพงศ์ ปราบ ได้คะแนน 11,029 ปชป.
อำเภอเทพา เขต 2 นายศิริชัย หนิมา ได้คะแนน 8,507 ปชป.
อำเภอสะบ้าย้อย เขต 1 นายสุลี โต๊ะเพ็ชร ได้คะแนน 7,393 ปชป.
อำเภอสะบ้าย้อย เขต 2 นายปิยะ อุ่นแดง ได้คะแนน 8,200 ปชป.
อำเภอรัตภูมิ เขต 1 นายวงศ์วชิระ ขาวทอง ได้คะแนน 10,204 ปชป.
อำเภอรัตภูมิ เขต 2 นายพิษณุ หลีหีม ได้คะแนน 5,097 ปชป.
อำเภอสิงหนคร เขต 1 นายจตุพร เขียวเจริญ ได้คะแนน 9,333 ปชป.
อำเภอสิงหนคร เขต 2 นายวิสิทธิ์ รุจิเรข ได้คะแนน 7,417 ปชป.
อำเภอสทิงพระ นายปรีชาพงศ์ วงศ์พระจันทร์ ได้คะแนน 10,302 ปชป.
อำเภอระโนด ว่าที่ ร.ต.ไกรธนู แกล้วทนงค์ ได้คะแนน 13,632 ปชป.
อำเภอกระแสสินธุ์ นายโยธิน ทองเนื้อแข็ง ได้คะแนน 6,091 ปชป.
อำเภอนาหม่อม นายอาคม ประสมพงศ์ ได้คะแนน 6,572 ปชป.
อำเภอควนเนียง นายศดิศ ไชยศิริ ได้คะแนน 6,124 อิสระ
อำเภอบางกล่ำ นายล่องหิ้น ทิพย์แก้ว ได้คะแนน 6,509 อิสระ
อำเภอคลองหอยโข่ง นายอุดม แก้วสุวรรณ์ ได้คะแนน 5,500 พปชร.
(อักษรย่อท้ายทีม ปชป. คือทีมพรรคประชาธิปัตย์ พปชร.คือทีมพรรคพลังประชารัฐหรือสงขลาประชารัฐ และผู้สมัครอิสระ)