เรือนจำกลางสงขลา ปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ 109 ราย


30 ธ.ค. 2563

เรือนจำกลางสงขลา ปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ 109 ราย ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ พ.ศ. 2563 ท่ามกลางความปลาบปลื้มปิติแก่ญาติพี่น้องที่มารอรับ

วานนี้ (29 ธ.ค. 63) ที่เรือนจำกลางสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานในพิธีปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2563 เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ พ.ศ.2563 จำนวน 109 ราย โดยมีนางกัญจนา เกลี้ยงเกลา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา นางนิภา งามไตรไร ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสงขลา หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้ต้องราชทัณฑ์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธี

นางนิภา งามไตรไร ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสงขลา กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชดำริเห็นว่าเนื่องในโอกาสวันคล้าย วันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติและวันพ่อแห่งชาติ พ.ศ. 2563 เพื่อแสดงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมควรพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ โดยคณะกรรมการตรวจสอบ ผู้ซึ่งได้รับพระราชทานอภัยโทษร่วมพิจารณาผู้ต้องราชทัณฑ์ปล่อยตัวในวันนี้ เป็นผู้ที่ได้รับการลดโทษแล้ว ไม่มีโทษเหลือจำอีกต่อไป จำนวน 109 คน ผู้ต้องราชทัณฑ์กลุ่มนี้เป็นผู้มีความประพฤติดี ได้รับการแก้ไขฟื้นฟู และไม่เป็นภัยต่อสังคม รวมทั้งผ่านการอบรมโครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว "โคก หนอง นาแห่งน้ำใจและ ความหวัง กรมราชทัณฑ์" เพื่อให้สามารถพึ่งตนเองและหาเลี้ยงครอบครัวได้

นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ทุกคนที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว และขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวทุกคน ขอให้นำความรู้ความสามารถในด้านต่าง ๆ ทั้งการศึกษาอบรมการฝึกฝน ด้านอาชีพ และทักษะการใช้ชีวิตไปใช้ภายหลังพ้นโทษ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือให้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น พร้อมขอให้ตั้งปณิธานว่าจะประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดี ตั้งใจประกอบอาชีพสุจริต และอุทิศตนเป็นพลเมืองดีของสังคม น้อมนำพระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิต ซึ่งจะทำให้ชีวิตส่วนตัวและครอบครัวมีความผาสุกอย่างยั่งยืน

จากนั้น ผู้ต้องราชทัณฑ์ได้ร่วมกันกล่าวคำปฏิญาณตนว่าจะจงรักภักดีต่อชาติ พระมหากษัตริย์ และจะเป็นคนดีของสังคม ก่อนถูกปล่อยตัวส่งมอบให้กับญาติๆ ที่มารอรับบริเวณด้านหน้าเรือนจำกลางจังหวัดสงขลา โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความปลาบปลื้มปิติยินดี และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวที่พระองค์ท่านได้พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ พ.ศ.2563

ศิริลักษณ์ แคล้วคลาด/ข่าว/ภาพ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา 29 ธ.ค. 63