คืนชีวิตให้คลองเตยสร้างถนนคนเดินริมคลองหลังแสงทอง "ปลัดแป้น" ยืนยันผมทำได้
คลองเตย สายน้ำที่มีต้นคลองที่ตำบลคอหงส์ บ้านคลองหวะ สุดสายคลองที่ตำบลคลองแห ก่อนถึงตลาดน้ำคลองแห คลองสายเดียวที่ไหลผ่านเมืองหาดใหญ่ถูกเปลี่ยนจากคลองธรรมชาติเป็นคลองคอนกรีต ต้นคลองถูกปิดด้วยเหตุผลที่ว่าป้องกันน้ำท่วมเมือง จนทำให้หลายคนเรียกคลองเตยว่าคลองตายไปแล้ว
ที่ผ่านมาทั้งผู้บริหารเทศบาลนครหาดใหญ่ ส่วนราชการ ภาคเอกชน ต่างพูดถึงการพัฒนาคลองเตยแต่ก็ยังไม่มีใครทำจริงจังสักที เที่ยวนี้ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่หลายคนก็มีนโยบายเกี่ยวกับคลองเตยออกมากันอีกแล้ว ทีมงานมีโอกาสพูดคุยกับปลัดแป้น นายณรงค์พร ณ พัทลุง ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ ในวันแถลงข่าวเปิดตัวเมื่อ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับคำยืนยันอย่างหนักแน่นว่า "ผมทำได้"
"เชียงใหม่มีถนนคนเดินวัวลาย, กทม.มีจตุจักรและคลองโอ่งอ่าง หาดใหญ่ของเราที่จริงก็มีทำเลที่สวยๆอยู่ แต่ขาดการพัฒนาที่ดีนั่นคือ “ถนนคนเดินชลธารา ริมคลองเตยบริเวณด้านหลังโรงเรียนแสงทองวิทยา" หากมีโอกาสผมจะพัฒนาตรงนี้ให้เป็นถนนคนเดินหาดใหญ่ โดยแบ่งพื้นที่เป็นส่วนต่างๆ เช่น ลานกิจกรรมดนตรีเปิดหมวก,ส่วน Street Art ให้เยาวชนได้มีโอกาสแสดงฝีมือ,จุดจอด Food Truck, และจัดพื้นที่ส่วนถนนชลธาราให้เป็นที่เดินพักผ่อนเพื่อเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าที่มีให้เลือกมากมายหลากหลายประเภทและจะต้องแตกต่างจากงานออกบูธตามเทศกาลต่างๆ
อีกทั้งจะประสานงานกับกรมเจ้าท่า เพื่อพัฒนาคลองเตยในช่วงนั้นให้เป็นจุดเช็กอิน, ถ่ายรูปในวันเสาร์-อาทิตย์ ลักษณะเดียวกับคลองชองกเยชอน ที่เกาหลีใต้ และคลองโอ่งอ่าง ที่กรุงเทพมหานคร แต่ที่เราจะเน้นเป็นพิเศษคือผู้ประกอบการค้าขายในตลาดต้องเป็นพี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่เป็นหลัก ส่วนที่จอดรถจะประสานกับโรงเรียนศรีนคร ซึ่งมีที่กว้างและเป็นวันหยุดเรียนในการบริการที่จอดรถแก่นักท่องเที่ยว หากเราทำสำเร็จจะสร้างสีสันให้กับเมืองทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวกลับมาคึกครั้งอีกครั้ง และจะเป็นการกระจายรายได้เพิ่มการขยายตัวของเศรษฐกิจในพื้นที่ต่อไป"
ปลัดแป้น ยืนยันว่านโยบายที่ออกมานี้ไม่ได้คิดขึ้นมาลอยๆ เพราะตนเองและทีมงานได้มีการลงพื้นที่สำรวจความเป็นไปได้ รวมถึงสอบถามข้อมูลจากประชาชนในพื้นที่มาแล้วด้วยก่อนนำมาสร้างเป็นนโยบาย ระยะทางราว 400 เมตร ริมคลองเตย จากสะพานด้านข้างโรงเรียนแสงทองวิทยา ไปตามถนนชลธารา จรดสะพานที่ถนนธรรมนูญวิถีหน้าโรงเรียนศรีนคร ลำคลองช่วงนี้เป็นเส้นโค้งมีศาลาพัก 2 จุด สามารถสร้างเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจกลางเมือง แต่คลองแห่งนี้ไม่ได้รับการปรับปรุงพัฒนาให้เป็นสายน้ำที่มีคุณค่าต่อชาวเมือง คลองเตยวันนี้เป็นแค่คลองเล็กๆ มีหน้าที่รองรับน้ำเน่าเสีย ขยะ สิ่งปฏิกูล ซากพืชซากสัตว์ทับถม ส่งกลิ่นเหม็นโชย และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง มากมายด้วยเชื้อโรค ทำให้คลองเก่าแก่ของเมืองหาดใหญ่สายนี้ด้อยค่าไม่น่ามอง และได้รับการพูดถึงแต่ความเสื่อมโทรม
คุณเธียรศักดิ์ พินโสภณ อายุ 80 ปี อดีตวิศวกรเทศบาลนครหาดใหญ่ เล่าว่าคลองเตยถือเป็นคลองเก่าแก่ของหาดใหญ่ เป็นคลองธรรมชาติ ต้นคลองเริ่มที่บริเวณคลองหวะ คดเคี้ยวผ่านชุมชนต่างๆ ในตัวเมือง และไปสิ้นสุดที่บ้านคลองแห “จำได้ว่าในอดีตมีการถมดินปิดปากคลองเตย เพื่อกันไม่ให้น้ำจากคลองอู่ตะเภาไหลเข้ามาท่วมเมืองหาดใหญ่ และการปิดปากคลองในครั้งนั้น ทำให้น้ำในคลองเตยไม่ไหล กลายเป็นน้ำขัง เทศบาลเมืองหาดใหญ่สมัยนั้นได้เทพื้นคอนกรีตริมคลองเตย เพื่อป้องกันการบุกรุกริมคลอง ทุกวันนี้คลองเตยก็มีสภาพไม่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต”
จุฑามาศ แซ่ซิ่ม แม่ค้าโจ้กตลาดโก้งโค้ง ถนนประชาธิปัตย์ ซอย 2 บอกว่าตนเปิดร้านตรงนี้ร่วม 30 ปีแล้ว ขายตอนเช้า เก็บร้านประมาณเที่ยง เมื่อได้ยินได้ฟังว่าจะมีการปรับปรุง พัฒนาคลองเตยให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวค้าขายก็รู้สึกดีใจ “หากสามารถทำได้จริงๆ คิดว่าตรงนี้จะเป็นแหล่งการค้าขาย ท่องเที่ยวที่ผู้คนให้ความสนใจ ตนเองก็จะได้ขยายเวลาขายของ หรืออาจขายกลางคืนด้วย เป็นสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นในชุมชน”
ร้านเครื่องดื่มริมถนนชลธารา “ธนภูมิ พัฒนชาคร” เด็กหนุ่มเจ้าของร้านแม้จะพูดน้อยแต่ได้ใจความชัดเจนว่า “หากตรงนี้เป็นอย่างคลองโอ่งอ่างร้านผมคึกคักแน่นอนครับ”
ด้านหน้าประตูฝั่งโบสถ์คริสต์แสงทองวิทยา “เจษฎางค์ ศรีหฤทัยนริมล” พ่อค้าขายหมู-ไก่สะเต๊ะ “ตอง ๑” ขานรับนโยบายนี้เช่นกัน “ผมขายอยู่บริเวณนี้สิบกว่าปีแล้ว ก่อนนี้ขายอยู่ริมคลองข้างโรงเรียน และย้ายมาตรงนี้ สิ่งแรกเลยผมนึกถึงคลองโอ่งอ่างที่กรุงเทพ ตามที่เห็นในสื่อชอบมากเลย หากคลองเตยทำแบบนั้นได้ ผมว่าเศรษฐกิจของหาดใหญ่ดีขึ้นการค้าขายคึกคัก อยากให้ทำได้จริงๆ ผมจะได้มีจุดค้าขายเพิ่มขึ้นด้วย”
กาลเวลาผันเปลี่ยนหลายทศวรรษแต่คลองเตยยังคงสภาพเดิม เน่าเหม็น เสื่อมโทรม ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจการค้า หรือใช้ประโยชน์จากสายน้ำแห่งนี้เลย หากแต่วันนี้คลองเตยได้รับการกล่าวถึงแล้วเป็นอีกด้านของความดีงามทำให้เกิด “ความหวังแห่งสายน้ำ” ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศบาลนครหาดใหญ่ ปลัดแป้น นายณรงค์พร ณ พัทลุง ยืนยันผมทำได้
นี่คือหนึ่งในนโยบายที่น่าสนใจของว่าผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ หากผู้สมัครคนไหนมีนโยบายที่น่าสนใจอื่นๆ ทีมงานจะสรรหามาให้ได้ิติดตามประกอบการพิจารณาเลือกตั้งแก่ชาวนครหาดใหญ่ต่อไป