นักศึกษา มรภ.สงขลา“จตุรงค์ พลเดช” รับรางวัลเหรียญทอง เดี่ยวระนาดเอก


30 มิ.ย. 2564

นักศึกษาดนตรีไทย มรภ.สงขลา สร้างชื่อต่อเนื่อง “จตุรงค์ พลเดช” คว้ารางวัลเหรียญทอง เดี่ยวระนาดเอก เพลงสุรินทราหู 3 ชั้น เวทีประกวดเดี่ยวเครื่องดนตรีไทยและขับร้องระดับชาติ รอบชิงชนะเลิศ ระดับอุดมศึกษา โครงการ 50 ปี ดนตรีบ้านสมเด็จฯ

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา นายจตุรงค์ พลเดช นักศึกษาปี 3 สาขาวิชาดนตรีไทย คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) ได้รับรางวัลเหรียญทอง เดี่ยวระนาดเอก เพลงสุรินทราหู 3 ชั้น เครื่องดนตรีประกอบจังหวะ นายอภิชาติ วัฒนะ-ฉิ่ง นายดรัณภพ เกิดแก้ว-กลองสองหน้า จากการประกวดเดี่ยวเครื่องดนตรีไทยและขับร้องระดับชาติ “เสริมประสบการณ์ สืบสานสังคีตศิลป์ไทย” รอบชิงชนะเลิศ ระดับอุดมศึกษา โครงการ 50 ปี ดนตรีบ้านสมเด็จฯ งานวันคล้ายวันพิราลัยสมเด็จเจ้าพระยาบรมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ประจำปีพุทธศักราช 2564 และวาระครบรอบ 50 ปี ดนตรีบ้านสมเด็จฯ วิทยาลัยการดนตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ซึ่งเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 นายทวีพงศ์ ชูศรี นักศึกษาสาขาวิชาดนตรีไทย มรภ.สงขลา ได้รับรางวัลเหรียญทอง อันดับที่ 3 (ปี่ใน) จากการประกวดในงานเดียวกันนี้

นายจตุรงค์ กล่าวถึงความรู้สึกต่อรางวัลที่ได้รับว่า รู้สึกดีใจตั้งแต่มีรายชื่อผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศแล้ว และภูมิใจมากที่ได้รางวัลเหรียญทอง เพราะเป็นปีแรกที่เข้าประกวดดนตรีไทยในระดับอุดมศึกษา ก่อนหน้านี้ตนเคยประกวดดนตรีมาตั้งแต่ระดับประถม มัธยม แต่สำหรับเวทีระดับอุดมศึกษายอมรับว่าค่อนข้างกดดัน เพราะยากขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง โดยได้พยายามทำเต็มที่ตั้งแต่รอบคัดเลือกเหลือ 10 คน จนสามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้เป็นผลสำเร็จ

“รางวัลที่ได้มาถือว่าคุ้มค่ากับความทุ่มเท ผมคิดว่าการหมั่นฝึกซ้อมถือเป็นหน้าที่หลักของคนที่เรียนทางศาสตร์แขนงนี้ เพราะในการเรียนสาขาวิชาดนตรีต้องอาศัยการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ จึงจะเกิดความเชี่ยวชาญ ดังนั้น เมื่อมีเวลาว่างหลังจากเรียนวิชาสามัญผมและเพื่อน ๆ ก็มาฝึกซ้อมดนตรีร่วมกัน ช่วงที่ซ้อมมีอาจารย์ประจำสาขาวิชาดนตรีไทย คณะศิลปกรรมศาสตร์ มาคอยดูแลและให้คำแนะนำเรื่องแนวเพลงและการบรรเลงอยู่ตลอด ซึ่งผมได้ฝึกจากสิ่งที่อาจารย์แนะนำจนถึงวันที่ต้องอัดวิดีโอส่งเราก็ทำเต็มที่ เมื่อถึงวันประกาศรางวัลเหรียญทองที่มีชื่อผมเป็นหนึ่งในนั้น จึงนับเป็นเกียรติประวัติต่อตัวผม รู้สึกภูมิใจมาก ๆ ที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัย” นายจตุรงค์ กล่าว