เขต 7 เด็ดสะระตี่ "ศิริโชค" พร้อมท้าชน "ณัฏฐ์ชนน" ทุกเงื่อนไข
กิมหยงชงข่าวขอนำไปส่องสมรภูมิการเมืองจังหวัดสงขลา ถ้าถามว่าเขตไหนเด็ดสุดคงหนีไม่พ้นเขต 7 พื้นที่อำเภอนาทวี สะบ้าย้อย ต.สำนักแต้ว สำนักขาม อ.สะเดา ที่การเลือกตั้งเที่ยวล่าสุดต้นปี 2562 ศิริโชค โสภา ที่เป็นสส.เขตนี้มาตั้งแต่ปี 2544 มาพลาดท่าเสียทีให้กับณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ จากพรรคภูมิใจไทย แต่เขาก็ยังไม่ถอดใจกลับมาเกาะติดพื้นที่เหนี่ยวแน่นมากยิ่งขึ้นพร้อมตั้งเป้าถอนแค้นทวงคืนแชมป์ในสมัยต่อไปให้ได้
ย้อนดูเส้นทางการเมืองของศิริโชค โสภา เขาเกิดที่กรุงเทพฯ แต่เลือกมาลงสนามการเมืองที่สงขลา เมื่อปี 2544 และเป็นสส.ที่มีผลงานโดดเด่นในสภาจากการทำหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบได้อย่างเข้มข้น และยังเป็นคนสนิทของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เขาทำหน้าที่เป็นวอลเปเปอร์เดินตามและคอยตอบโต้ทุกการโจมตีแทนอดีตนายกมาร์คมาโดยตลอด แต่เรื่องในพื้นที่นั้นเขามีจุดอ่อนให้โจมตีค่อนข้างเยอะว่าไม่ค่อยอยู่ในพื้นที่ไม่ค่อยมีผลงาน รวมถึงการเลือกตั้งเที่ยวล่าสุด อภิสิทธิ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังประกาศไม่เอาประยุทธ์ จึงเป็นกระแสตีกลับให้สส.ภาคใต้สอบตกหลายคนและนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาพ่ายการเลือกตั้งเที่ยวล่าสุดด้วย
ในส่วนของเดอะหนุ่ย ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สส.หนึ่งเดียวจากพรรคภูมิใจไทย ที่ใช้การเดินเข้าหาชาวบ้านมาชาวยาวนานตั้งแต่แรกเริ่มรัฐบาลปฏิวัติและมีการปลุกกระแสเรื่องเขต 7 ถูกทอดทิ้งอย่างต่อเนื่อง การเมืองสไตล์เดอะหนุ่ย ถือว่าถูกใจชาวบ้านมากพอสมควร และเมื่อกระแสดีแรงหนุนจากพรรคก็ตามมาด้วยในการเลือกตั้งเขาจึงถูกยกเป็นเต็ง 1 ตั้งแตะระฆังยังไม่เริ่มก็ว่าได้ ภายหลังการได้เป็นสส.บทบาทในสภา ในพื้นที่เขาก็มีไม่ขาดสายเรียกได้ว่าเป็นสส.ดาวเด่นคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ และทุกโครงการที่เกิดขึ้นในพื้นที่เขต 7 เขาก็จะโปรโมทเป็นผลงานตัวเองอยู่เสมอ และมักจะถูกสกัดดาวรุ่งจากอดีตเจ้าของพื้นที่อยู่บ่อยๆ พร้อมให้ฉายาว่า ชุปหัวโม่ง ส่วนเขาก็ให้ฉายากลับคู่แข่งเขาว่า เด็กขี้แยบ้าง เบ้บี๊บ้าง เรียกว่ากันกัดทุกดอกขบกันทุกประเด็น
ภายหลังการเลือกตั้งต้นปี 62 ศิริโชค โสภา ไม่ได้ทิ้งพื้นที่ไปไหนแต่กลับมาทำงานหนักขึ้น ลงพื้นที่มากขึ้นในการเลือกตั้งนายกอบจ.สงขลา เที่ยวล่าสุดเขาก็เป็นกำลังสำคัญในการช่วยหาเสียงแต่ไม่ขอรับตำแหน่งใดๆ เพราะมีเป้าหมายเพียงอย่างเดียวคือการเลือกตั้งสส.เที่ยวต่อไปเท่านั้น ชัยชนะของพรรคประชาธิปัตย์ ชัยชนะของผู้สมัครสจ.ทุกคนในเขต 7 เป็นเสมือนสัญญาณว่าพื้นที่นี้กำลังกลับมาเป็นของปชป.อีกครั้ง แม้คู้แข่งคือพลังประชารัฐไม่ใช่ภูมิใจไทย แต่มีภาพชัดเจนว่าเดอะหนุ่ย มีคนของตัวเองอยู่ในทีมบริหารฝ่ายคู่แข่งประชาธิปัตย์ด้วย ในเบื้องหน้าสส.ทุกคนห้ามช่วยหาเสียงแต่เบื้องหลังปฏิเสธไม่ได้ว่าสส.ทุกคนต่างมีทีมสนับสนุนเป็นของตัวเองทั้งนั้น
หลังจากได้เป็นสส.ของเดอะหนุ่ยและพรรคของเขาได้คุมคมนาคมด้วย หลายโครงการในพื้นที่จึงเป็นเสมือนผลงานของเขาด้วยโดยมีการโพส มีการโปรโมทอย่างต่อเนื่องเรีกยได้ว่าเป็นการตลาดชั้นเซียนเลยทีเดียว แถมเขายังอภิปรายในสภาว่ามีเด็กขี้แยในพื้นที่พยายามกีดกันงบประมาณที่จะลงในเขตของเขาด้วยซึ่งไม่ต้องบอกว่าหมายถึงใคร และทุกครั้งก็จะมีการโต้กลับทันทีจากฝั่งศิริโชคเสมอพร้อมย้ำคำว่าชุปหัวโม่งในทุกครั้ง
แต่การเล่นการเมืองของณัฏฐ์ชนน ก็มีจุดพลาดหลายครั้งเช่นกัน อย่างกรณีการวางแล้วรื้อออกของแท่งแบริเออร์กั้นเกาะกลางที่นาทวี มีการพยายามโจมตีว่าคู่แข่งเป็นคนสั่งรื้อแต่เมื่อถูกขุดภาพการประชุมร่วมกันของทางหลวงชาวบ้าน โดยณัฏฐ์ชนนและศิรโชคก็อยู่ในการประชุมและรับทราบร่วมกันในการรื้อด้วย ทำให้ภาพข่าวนั้นหลุดหายไปโดยไม่มีการชี้แจงใดๆ อีกครั้งกับการโพสบอกว่าข้าวสารที่แจกชาวบ้านของอบจ.นั้นใช้ภาษีประชาชนไม่ใช่ของพรรคประชาธิปัตย์ จนมีกระแสตีกลับว่าทีตัวเองไปถ่ายรูปกับถนนก็ใช้ภาษีชาวบ้านเช่นกัน มีการบอกว่าให้ใจกว้างหน่อยบ้างอะไรบ้าง
ทั้งหลายทั้งปวงที่เล่ามาเป็นแค่น้ำจิ้มและสีสันการเมืองเท่านั้น รัฐบาลชุดปัจจุบันทำหน้าที่มาเกินครึ่งเทอมแล้วและไม่รู้ว่าจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ การเตรียมความพร้อมหากมีการเลือกตั้งใหม่ก็เป็นสิ่งที่นักการเมืองต่างไม่ประมาท อดีตแชมป์อย่าง ศิริโชค โสภา เขาจึงฟิตซ้อมอย่างเต็มที่ในการทวงแชมป์คืน ส่วนแชมป์ใหม่ถอดด้ามอย่าง ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ก็ยังคงทำงานหนักอย่างต่อเนื่องเพื่อหวังที่จะรักษาแชมป์และเป็นแม่ทัพในการขยายฐานเสียงให้กับพรรคภูมิใจไทยสงขลาต่อไป สุดท้ายก็เหมือนที่บอกทุกครั้งว่า "ชัยชนะทางการเมืองคำตอบอยู่ที่ประชาชนเท่านั้น 1 คน 1 เสียงเท่ากันหมด ใครชนะใจคนส่วนใหญ่ได้ก็ชนะ"
กับแกล้มการเมือง ผลการเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 7 จังหวัดสงขลา เมื่อ 24 มีนาคม 2562 อันดับ 1 นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ พรรคภูมิใจไทย 31,286 คะแนน อันดับ 2 นายศิริโชค โสภา พรรคประชาธิปัตย์ 25,140 คะแนน อันดับ 3 นายเทียน ตันติวิริยภาพ พรรคพลังประชารัฐ 12,797 คะแนน อันดับ 4 นายอับดุลเล๊าะ หลงนิ พรรคประชาชาติ 8,558 คะแนน อันดับ 5 นางสาวจันจิรา สุขัง พรรคอนาคตใหม่ 7,052 คะแนน *ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 123,697 คน มาใช้สิทธิ์ 92,175 คน