​"นิพนธ์" ตรวจความพร้อมการระบายน้ำเมืองหาดใหญ่-ย้ำทุกฝ่ายต้องเตรียมรับมือทุกสถานการณ์


27 ก.ย. 2564

มท.2 นิพนธ์ บุญญามณี ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำอำเภอหาดใหญ่ ติดตามความคืบหน้าโครงการขยายคลองร.1 สั่งการให้ทุกฝ่ายเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุทกภัยในพื้นที่ป้องกันการสูญเสียให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด


(27 ก.ย.64) นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการมหาดไทย (มท.2) ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำคลองภูมินาถดำริ ที่บริเวณประตูระบายน้ำหน้าควน อำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา โดยมีนายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายเชาวลิต นิฒรรัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา นายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอหาดใหญ่ นายเดช เล็กวิชัย ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 16 นายรุทร์ อินนุพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 11 นายนิพัฒน์ อุดมอักษร เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ

สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของโครงการขยายคลองภูมินาถดำริ หรือคลองร.1 ซึ่งมีความคืบหน้าไปแล้วคิดเป็นร้อยละ 91.5 คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2565 อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าการดำเนินงานจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่สามารถช่วยระบายน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากที่จะมาถึงได้ จากการประเมินศักยภาพพบว่าสามารถระบายน้ำได้ประมาณ 1,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที คาดว่าจะสามารถป้องกันบรรเทาปัญหาอุทกภัยให้กับประชาชนในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ได้ โดยในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ทางกรมชลประทาน จะให้ผู้รับเหมาชะลอการก่อสร้างงานที่กระทบต่อการระบายน้ำออกไปก่อนเพำื่อเตรียมความพร้อมรับการระบายในช่วงฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง

นายนิพนธ์ บุญญามณี กล่าวว่าการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำของอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาในครั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่าปีนี้ปริมาณน้ำฝนจะเยอะกว่าปีที่แล้ว ซึ่งขณะนี้พื้นที่ตอนบนของประเทศกำลังได้รับผลกระทบจากร่องมรสุมพาดผ่าน ดังนั้นพื้นที่ภาคใต้ในช่วงปลายเดือนตุลาคม-ธันวาคม จะเข้าสู่ช่วงมรสุม จึงต้องวางแผนเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ก่อนน้ำมา ตั้งแต่พื้นที่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ

ต้องบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กรมชลประทาน กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องมีการเตรียมความพร้อมทั้งงบประมาณ บุคลากร เครื่องจักร มีการวางแผนร่วมกันเพื่อรับมือมวลน้ำที่จะเข้ามาในช่วงฤดูมรสุม ลดความเสี่ยงการเกิดอุทกภัยในพื้นที่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด ไม่ให้เกิดการสูญเสียชีวิตซึ่งการเตรียมความพร้อมที่ดีจะเป็นการยับยั้งการสูญเสีย และบรรเทาความเสียหายได้

สำหรับโครงการบรรเทาอุทกภัยอำเภอหาดใหญ่ ระยะที่ 2 เป็นการปรับปรุงคลองภูมินาถดำริ หรือคลองร.1 จากเดิมระบายอยู่ที่ 465 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ทำการขยายให้ระบายน้ำได้ 1,200 ลูกบาศก์เมตร/วินาที โดยเป็นการแบ่งน้ำจากคลองอู่ตะเภาก่อนไหลผ่านตัวเมืองหาดใหญ่ ให้ระบายลงสู่ทะเลสาบสงขลาเร็วขึ้น โดยที่คลองอู่ตะเภาสามารถระบายน้ำได้ประมาณ 465 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เมื่อรวมกับการระบายน้ำคลองร.1 จะทำให้สามารถระบายน้ำได้ 1,660 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งมีศักยภาพเพียงพอในการป้องกันน้ำท่วมเมืองหาดใหญ่ และเป็นพื้นที่เก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้งได้อีกด้วย