"นิพนธ์" ปล่อยคาราวานรถมูลนิธิหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช "มอบถุงปันน้ำใจ ส่งต่อความห่วงใย ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมปล่อยคาราวานรถมูลนิธิหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ซึ่งมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานมูลนิธิฯ เพื่อส่งต่อถุงปันน้ำใจ ไปยังผู้ประสบภัยฯ
นายนิพนธ์ กล่าวว่า ขณะนี้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง นอกจากพี่น้องประชาชนจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าวแล้วนั้น ยังมีเรื่องของภัยภิบัติทางธรรมชาติต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหตุอุทกภัยน้ำท่วม ที่ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ ต้องเผชิญมาตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งในวันนี้แม้สถานการณ์ต่างๆ ได้คลี่คลายลงแล้ว แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ พร้อมสำรวจพื้นที่ความเสียหาย รวมทั้งทรัพย์สินบ้านเรือน ที่ทางทางการเกษตรของประชาชน เพื่อเร่งรัด ฟื้นฟู ให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางระเบียบ ซึ่งตนได้สั่งการและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมานั้น ตน ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมมูลนิธิหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช นำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ไปมอบให้มูลนิธิฯ ก่อนบรรจุ เพื่อส่งต่อไปยังผู้ประสบภัย บรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้ประชาชนผู้ประสบภัยจากสถานการณ์น้ำท่วม รวมไปจนถึงภัยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยในวันนี้ หลังจากดำเนินการบรรจุสิ่งของดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้ร่วมปล่อยคาราวานรถมูลนิธิหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช "มอบถุงปันน้ำใจ ส่งต่อความห่วงใย ไปยังพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัย ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ตรัง และพัทลุง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนในเบื้องต้นได้ไม่มากก็น้อย
ก่อนกล่าวทิ้งท้าย ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ได้ทุ่มเทเสียสละอย่างเต็มที่ ตนพร้อมสนับสนุนทุกอย่าง เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างราบรื่น รวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ ยืนยันว่ารัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย พร้อมผนึกกำลังประสานองค์กรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกเชน รวมไปจนถึงองค์กรการกุศล และมูลนิธิต่างๆ เพื่อให้การช่วยเหลือดูแลประชาชนผู้ประสบภัยอย่างกำลังความสามารถ ตั้งแต่ก่อนเกิดภัย ระหว่างเกิดภัย และหลังเกิดภัย โดยไม่ทอดทิ้งใครแน่นอน และเราจะก้าวพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน
