"นายกชาย" แจงทุกประเด็นการบุกรุกเขาแดง-เขาน้อย ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกกรณี
นายกชาย ส.ส.เดชอิศม์ ขาวทอง เปิดพื้นที่ตอบทุกคำถามกรณีเครือญาติถูกหมายจับเรื่องบุกรุกเขตโบราณสถานเขาแดง-เขาน้อย ยืนยันไม่มีส่วนรู้เห็นและไม่ให้ความช้วยเหลือทุกรณีกับผู้กระทำผิดให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม พร้อมเดินหน้าประกาศเอกราชทางสิ่งแวดล้อมต่อไปเชื่อชาวบ้านส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ เชื่อไม่กระทบงานการเมืองกับปชป.
(5 เม.ย.65) ที่โรงแรมต้นอ้อยแกรนด์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายกชาย นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา เขต 5 และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ภาคใต้ได้เปิดแถลงข่าวกรณีการบุกรุกโบราณสถานเขาแดงและเขาน้อย ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.สิงหนคร จ.สงขลา หลังจากที่มีคนบางกลุ่มพยายามโยงให้เป็นประเด็นทางการเมือง จึงมีการเสนอข่าวไม่ตรงข้อเท็จจริง โดยเปิดให้สื่อมวลชนถามทุกประเด็นข้อสงสัย เพื่อไม่ให้สังคมเกิดความสับสน โดยมีประชาชน และนักการเมืองท้องถิ่น เดินทางมาร่วมรับฟัง และมอบดอกไม้ให้กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก
นายกชาย กล่าวย้ำว่าตนยืนยันคำพูดคำเดิมว่า หากมีการสอบสวนแล้วพบว่ ตนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการบุกรุกโบราณสถานเขาแดงและเขาน้อยเพียง 0.01 % จะลาออกจากส.ส.ทันทีและจะเลิกเล่นการเมืองทุกระดับตลอดชีวิต และขอให้ดำเนินคดีกับคนที่กระทำผิดไม่ว่าจะเป็นใครให้ถึงที่สุด โดยไม่มีการละเว้นทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย หากศาลตัดสินแล้วผิดให้ชดใช้ทางแพ่งและทางอาญา
"ขณะนี้มีขบวนการที่พยายามโยงให้ตนเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ให้ได้ โดยมีกลุ่มคนบางกลุ่มและมีนายบรรจง นะแส ตัวแทนภาคประชาสังคม และเอ็นจีโอ รวมทั้งนักการเมืองบางคนที่ลงสมัครแข่งขันกับตน มีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวผ่านเฟสบุ๊คถล่มตนเกือบทุกวัน จนประชาชนบางคนเกิดความเข้าใจว่า ตนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งที่ตนไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
โดยคดีนี้มีรายละเอียดค่อนข้างเยอะต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ การบุกรุกเขาแดงที่มีการทำทางขึ้นยอดเขาซึ่งผู้กระทำผิดได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วซึ่งเป็นบุคคลที่ตนเองไม่รู้จักเลย ส่วนกรณีเขาน้อย มีหลานสาวเข้าไปเกี่ยวข้องเพราะมีการปรับพื้นที่หลังบ้านสำหรับเลี้ยงหมาจรจัดและรุกล้ำไปในเขตโบราณสถาน ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาก็เข้าให้ปากคำกับตำรวจแล้ว ส่วนคดีของพี่สาวนั้นเกิดตั้งแต่ปี 57 แต่เพิ่งมามีการจับกุมในช่วงเวลานี้ ขอยืนยันว่าตนเองไม่มีส่วนรู้เห็นและไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีนี้ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
นอกจากนี้ยังมีการรายงานข่าวจากบางสำนักที่เสนอข่าวมั่วจับแพะชนแกะที่พยามโยงให้ถึงนักการเมืองระดับชาติ และบางคนที่ยืนฝั่งตรงข้ามตนเชื่อในข่าวที่ออกมา โดยไม่วิเคราะห์จนมีบางคนประณามตน แล้วยังใส่ร้ายพรรคที่ตนสังกัดอีกจนเกิดความเสียหาย 3 ส่วน คือ ตนในฐานะส.ส.เขต 5 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ และครอบครัว จึงต้องฟ้องดำเนินคดีกับ นายบรรจง นะแส ถึงที่สุดเพราะมีขบวนการการเมืองผสมด้วย เพื่อให้ศาลเป็นผู้ตัดสินว่าตนผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือพาดพิงหรือไม่เรื่องจะได้จบกันเสียที"
นายเดชอิศม์ ยังกล่าวอีกว่า ตนมีพี่น้องพ่อแม่เดียวกัน 12 คน อยู่ต่างจังหวัด และต่างอำเภอ เมื่อพี่น้องคนหนึ่งคนใดกระทำผิดแล้วให้ตนเข้าไปร่วมรับผิดชอบด้วยหรืออย่างไร โดยอยากขอความเป็นธรรมให้กับตนด้วย ส่วนพี่น้องลูกหลานญาติมิตรตน หากคนใดทำผิด ก็ให้ดำเนินคดีให้เด็ดขาดไปตามพยานหลักฐาน และขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งตนจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเป็นอันขาด และตนเชื่อว่าคดีบุกรุกโบราณสถานเขาแดง-เขาน้อย อ.สิงหนคร นั้นจะไม่เป็นมวยล้มแน่นอน ขึ้นอยู่ที่พยานหลักฐาน
"นายกชาย" ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเองไม่เคยลืมคะแนนที่พี่น้องประชาชนมอบให้และจะไม่มีทางทรยศพี่น้องประชาชนเด็ดขาด ยังยืนยันว่าพร้อมร่วมผลักดันสงขลาสู่เมืองมรดกโลก เรื่องการบุกรุกโบราณสถานเขาแดง-เขาน้อย ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนเรื่องของการฟื้นฟูพร้อมสนับสนุนเต็มที่และอยากให้กรมศิลปากร จัดทำแนวเขตโบราณสถานให้ชัดเจน ให้ทุกหน่วยงานทำความเข้าใจกับชาวบ้านว่าสิ่งไหนทำได้ สิ่งไหนทำไม่ได้ในเขตโบราณสถาน ในเขตป่าไม้ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน
ส่วนคนที่เห็นต่างต้องเปิดใจให้กว้าง อย่าก้าวร้าวและตั้งธงความอคติ ที่สำคัญตนเองไม่เห็นด้วยกับการค้าความแตกแยกในสังคมที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ หลังจากนี้จะขอยุติการให้ข่าวเกี่ยวกับประเด็นนี้จะขอเดินหน้าทำหน้าที่ผู้แทนปวงชนชาวไทยต่อไป ขอทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ในทุกสถานะเพื่อบตอบแทนทุกคะแนนเสียงที่พี่น้องประชาชนมอบให้