"น้ำท่วมแยกคลองหวะ" อย่าให้เป็นเรื่องเล็กที่ไร้การเหลียวแลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
แยกคลองหวะ เชื่อว่าเป็นแยกที่ชาวสงขลารู้จักกันเป็นอย่างดี แยกที่เป็นประตูต้อนรับชาวมาเลเซีย สิงโปร์ ที่เดินทางด้วยรถยนต์ต้องผ่านก่อนเข้าเมืองหาดใหญ่ เมืองสงขลา หรือว่าจังหวัดข้างเคียงตอนบน ทางหลวงหมายเลข 4 ตัดหมายเลข 43 หมายเลข 407 ล้วนเป็นถนนที่มีความสำคัญของจังหวัดสงขลาทั้ง 4 สาย
ปัญหาของแยกคลองหวะ นอกเหนือจากการจราจรหนาแน่นในชั่วโมงเร่งด่วนที่ทำให้เกิดรถติดสะสมแล้ว ยังมีปัญหาจุกจิกที่ไม่ได้รับการแก้ไขสักทีนั่นคือ "น้ำท่วมแยกคลองหวะ" บนทางหลวงหมายเลข 4 ฝั่งขาไปสะเดา เขตเทศบาลเมืองบ้านพรุ ฝั่งนี้จะมีปัญหาเยอะสุดฝนตกแค่ครึ่งชัวโมงก็เริ่มเห็นน้ำบนผิวจราจรแล้ว ทำให้เลนซ้ายรถสัญจรลำบากอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะรถจักรยายนต์และรถยนต์ขนาดเล็กต้องเบียดกันมาใช้เลนขวาทั้งหมด ปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดเป็นมานานแล้ว ชาวบ้านในพื้นที่และผู้ใช้เส้นทางบ่นกันมาตลอด
ในฐานะผู้ใช้เส้นทางสายนี้มาหลายปีแทบไม่เห็นการแก้ไขปัญหาที่จริงจังให้กับแยกคลองหวะเลย ปิดประเทศช่วงโควิด-19 มา 2 ปีกว่า ชาวมาเลเซียกลับมาเยือนเมืองไทยก็ยังได้พบแยกคลองหวะในสภาพเดิม เราเคยมีสส.เขตเป็นรมช.คมนาคมมาแล้วแต่ทุกอย่างยังเหมือนเดิม แขวงทางหลวงสงขลาที่ 1 ผู้รับผิดชอบเส้นทางเคยชี้แจงว่าก่อนโควิด-19 มีการจัดงบ 30 ล้าน เพื่อใช้แก้ปัญหาตรงแต่แต่งบถูกตัดไปเพราะโควิด ถึงตอนนี้โควิดซาจนจะมีโรคใหม่อีกแล้วไม่รู้ว่างบไปหยบอยู่ตรงไหนทำไมมาไม่ถึงสักที
ล่าสุดเมื่อ 14 มิถุนายน 2565 ฝนตกระยะเวลาไม่่นานมาก็เกิดน้ำท่วมขังเลนซ้ายของแยกคลองหวะฝั่งทางไปสะเดาอีกแล้ว มีหลายคนโพสลงโลกออนไลนฺ์ทำให้คณะทำงานของสส.น้ำหอม สุภาพร กำเนิดผล สส.เขต 6 สงขลา ลงมาดูพื้นที่ด้วยตัวเองได้เห็นสภาพปัญหาเบื้องต้นคือฝาคูระบายน้ำอุดตันจนน้ำไม่สามารถไหลลงท่อได้ ซึ่งเป็นเรื่องเบื้องต้นที่เห็นได้ชัดเจน หมวดทางหลวงคอหงส์ ผู้รับผิดชอบถนนที่ตั้งห่างจากจุดเกิดเหตุไม่กี่ร้อยเมตร เทศบาลเมืองบ้านพรุ เจ้าของพื้นที่ก็อยู่ไม่ไกล ผู้รับผิดชอบหลักทั้ง 2 หน่วยงานคงเห็นปัญหาตรงนี้มานานไม่แพ้ชาวบ้านในพื้นที่
ก่อนจะถึงฤดูฝนอย่างเป็นทางการรอบใหม่งบแก้ไขปัญหาคงยังมาไม่ถึง การดูแลพื้นที่ให้น้ำสามารถระบายได้เร็วที่สุดเท่าที่ศักยภาพของหน่วยงานระดับพื้นที่พอทำได้ เป็นสิ่งสำคัญจำเป็นเร่งด่วนหากหน่วยงานระดับพื้นที่ไม่มีเครื่องจักรที่เพียงพอก็ควรขอรับการสนับสนุนจากอบจ. ส่วนราชการระดับจังหวัด ระดับเขต เพื่อมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านบ้างไม่ใช่ปล่อยให้น้ำท่วมแล้วเหือดแห้งไปเองตามกาลเวลาแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ การแก้ไขปัญหาอาจยากเพราะการวางท่อริมทางเป็นของชาวบ้าน ของเอกชน ทำให้การระบายน้ำทำได้ช้าแต่ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
อย่างไรก็ตามการได้งบมาแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแยกคลองหวะ 30 ล้านนั้น เป็นเพียงแค่การแก้ปัญหาเบื้องต้นเพราะหากดูปริมาณรถที่ผ่านแยกในแต่ละวัน ดูความติดขัดของการจราจรแต่ละฝั่ง คงต้องฝากการบ้านข้อใหญ่ให้ทุกภาคส่วน ทางหลวง จังหวัด ท้องถิ่น ผู้แทนทุกระดับที่ชาวบ้านเลือกเข้าไป ต้องเป็นกระบอกเสียงในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังทั้งรถติด น้ำท่วม ความแออัดของถนนสายเศรษฐกิจแสนล้านแห่งนี้ และขอฝากไปถึงจุดอื่นๆ ทั้งจุดตัดทางรถไฟบ้านพรุ หน้าตลาดบ้านพรุ แยกเซ้าซี้ รวมถึงการขุดลอกคลอง ห้วย คู ต่างๆ ให้พร้อมระบายน้ำอยู่ตลอดเวลา เป็นสิ่งสำคัญเร่งด่วนของพื้นที่แห่งนี้