​ไขข้อข้องใจ โซลาร์เซล ติดแล้วประหยัดค่าไฟจริงหรือไม่


27 มิ.ย. 2566

สภาพอากาศบ้านเรานั้น ในฤดูร้อนดูเหมือนว่าจะร้อนขึ้นทุกๆ ปี และทำให้เราต้องมีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยให้ความเย็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะการเปิดแอร์เย็น ๆ คลายร้อน แต่พอบิลค่าไฟมาทีไรก็เหงื่อตกกันตลอด โดยเฉพาะในช่วง Covid 19 ที่ผ่านมา หลายคนต้อง Work from home หรือกักตัวอยู่ที่บ้าน ก็ยิ่งทำให้มีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้านจนค่าไฟพุ่งสูงขึ้นเพิ่มไปอีก ถึงแม้จะมีมาตรการช่วยลดค่าไฟฟ้าแต่ก็ช่วยอะไรไม่ค่อยได้มากเท่าไหร่ มิหนำซ้ำค่า FT ยังพุ่งขึ้นกันแบบฉุดไม่อยู่ จึงทำให้ทั้งบ้านเรือนบุคคลธรรมดาทั่วไป และธุรกิจต่าง ๆ ที่ต้องมีการใช้ไฟฟ้าต่างก็ต้องประสบปัญหากับค่าไฟที่เพิ่มขึ้นมากด้วยกันทั้งนั้น


ซึ่งในระยะหลังนี้เราจะเห็นได้ว่าตามโซเชียลมีเดียต่าง ๆ มีคนพูดถึงค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดถึงแม้จะมีการใช้ไฟฟ้าเท่าเดิมก็ตาม ในขณะที่บางส่วนก็ออกมาโพสต์เกี่ยวกับค่าไฟที่ถูกลงเป็นอย่างมากเมื่อติดแผงโซล่าร์เซลล์ บางคนลดจากหลักพันเหลือแค่หลักสิบกันเลยก็มี จึงทำให้หลายคนเริ่มสนใจและกำลังคิดว่าร้อนนี้ต้องติดตั้ง solar cell กันแล้วมั้ย? รวมไปถึงมองหาข้อมูลเกี่ยวกับแผงโซลาร์เซลล์ มาเป็นตัวเลือกทดแทนการใช้ไฟตามปกติเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายกันมากขึ้น แต่ทั้งนี้ค่าติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์ก็ยังคงมีราคาสูงถึงหลักแสนบาท จึงทำให้หลายคนเกิดความลังเลใจว่าจะติดหรือไม่ติดแผงโซล่าร์เซลล์กันดี จะคุ้มค่าจริงหรือเปล่า วันนี้เราไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลย

ข้อมูลเกี่ยวกับแผงโซลาร์เซลล์

แผงโซล่าร์เซลล์ที่ใช้งานกันส่วนใหญ่จะเป็นแผงแบบ Crystalline ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทได้แก่ Monocrystalline เป็นแผงโซล่าเซลล์เกรดดีที่สุด ผลิตมาจากซิลิคอนบริสุทธิ์ ให้ประสิทธิภาพสูงสุด และแผงโซล่าร์เซลล์แบบ Polycrystalline ซึ่งเป็นแผงแบบผลึกรวมที่ผลิตมาจากซิลิคอนเกรดทั่วไป ให้ประสิทธิภาพน้อยกว่าแบบ Monocrystalline

ประเภทของการใช้ไฟจากแผงโซล่าร์เซลล์

รูปแบบของการใช้ไฟล์จากการติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์ในปัจจุบันแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่

• ระบบ On-Grid เป็นการใช้ไฟที่ได้จากแผงโซล่าร์เซลล์และไฟบ้านตามปกติร่วมกัน โดยจะทำการเชื่อมโยงพลังงานที่ได้จากแผงโซล่าร์เซลล์เข้าสู่ระบบไฟบ้านโดยที่ไม่ต้องมีแบตเตอรี่เก็บสำรองไฟ ดังนั้นเมื่อแสงแดดหมดก็จะมีการใช้ไฟบ้านตามปกติ เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมเนื่องจากมีค่าบำรุงรักษาที่ค่อนข้างต่ำ สามารถช่วยลดปัญหากระแสไฟที่ไม่สม่ำเสมอ เช่น ไฟตก หรือไฟกระชาก อีกทั้งยังสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อขายให้กับการไฟฟ้าได้อีกด้วย เหมาะสำหรับบริเวณที่มีไฟฟ้าเข้าถึงอยู่แล้วแล้วมีการใช้ไฟมากในช่วงเวลากลางวัน

• ระบบ Off-Grid เป็นระบบที่ไม่มีการใช้งานร่วมกับไฟบ้านแต่อย่างใด ซึ่งจะมีทั้งแบบที่ไม่ต่อกับแบตเตอรี่ เมื่อมีแดดถึงจะสามารถใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ และแบบที่มีแบตเตอรี่เก็บสำรองไฟ ซึ่งราคาของแบตเตอรี่ก็ค่อนข้างสูงเลยทีเดียวและอาจจะต้องมีการเปลี่ยนทุกๆ 5-7 ปี ยิ่งถ้าหากมีการติดตั้งเป็นระบบใหญ่ ๆ ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงตามมาด้วย แต่ข้อดีก็คือสามารถทำให้ใช้ไฟได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เหมาะสำหรับบริเวณที่ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง

• ระบบ Hybrid เป็นรูปแบบที่ผสมผสานทั้ง 2 ระบบเข้าด้วยกัน โดยจะเป็นลักษณะคล้ายกับระบบ On-Grid ที่มีแบตเตอรี่สำรองไฟเอาไว้ใช้งานในกรณีที่แดดหมด เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีไฟเข้าถึงแต่ค่อนข้างมีปัญหาในเรื่องของไฟดับหรือไฟตกอยู่เป็นประจำ แต่ระบบนี้ค่อนข้างมีความยุ่งยากและมีข้อกำหนดในเรื่องของมาตรฐานการจ่ายไฟ อีกทั้งยังไม่สามารถขายคืนไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าได้

เมื่อติดตั้งโซล่าร์เซลล์แล้วสามารถช่วยลดค่าไฟได้มากน้อยแค่ไหน?


เมื่อติดตั้งแผงโซล่าเซลล์แล้วสามารถช่วยลดค่าไฟได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าให้คิดง่าย ๆ ก็คือดูจากขนาดของแผงโซล่าร์เซลล์ที่ติดตั้ง โดยแผงโซล่าร์เซลล์ขนาด 1 กิโลวัตต์ สามารถช่วยประหยัดค่าไฟได้ประมาณ 500-1,000 บาทต่อเดือน แผงโซล่าร์เซลล์ 3 กิโลวัตต์สามารถช่วยประหยัดค่าไฟได้ประมาณ 1,000 - 2,000 บาทต่อเดือน แผงโซล่าเซลล์ 5 กิโลวัตต์สามารถประหยัดค่าไฟได้ 2,000 - 4,000 บาทต่อเดือน ในขณะที่แผงโซล่าเซลล์ 10 กิโลวัตต์สามารถช่วยประหยัดค่าไฟได้ประมาณ 5,000 - 10,000 บาทต่อเดือน ซึ่งช่วงเวลาที่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ได้ดีที่สุดคือตั้งแต่เวลาประมาณ 10-15:00 น. โดยมีระยะคืนทุนอยู่ที่ประมาณ 6-10 ปี ดังนั้นถ้าหากถึงจุดที่คืนทุนแล้ว เราก็สามารถประหยัดค่าไฟกันได้แบบเต็ม ๆ โดยมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงตามระยะเวลาเท่านั้นเอง และถ้าหากมีสัญญาการขายไฟฟ้าส่วนเกินคืนให้กับการไฟฟ้าก็สามารถลดรายจ่ายลงไปได้อีก

ข้อควรพิจารณาก่อนติดตั้งโซล่าร์เซลล์

เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเกี่ยวกับแผงโซลาร์เซลล์ ก็จะเห็นว่าเมื่อถึงจุดคุ้มทุนแล้ว เราจะสามารถประหยัดค่าไฟกันได้แบบเต็ม ๆ แต่ทั้งนี้ก็ต้องพิจารณาดูก่อนว่าการใช้ไฟของเรานั้นเหมาะสมสำหรับการติดโซล่าร์เซลล์หรือไม่ เพราะถ้าหากมีการใช้ไฟไม่มาก ค่าไฟเดือนหนึ่งไม่เกิน 2,000 บาท การติดโซล่าร์เซลล์อาจจะถึงจุดคุ้มทุนช้า เป็นการลงทุนที่ไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่นัก แต่ถ้าหากมีค่าไฟเฉลี่ยมากกว่า 2,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ก็จะสามารถช่วยประหยัดไฟและถึงจุดคุ้มทุนได้ไวขึ้น โดยเฉพาะยิ่งถ้าหากมีการใช้ไฟมากในช่วงเวลากลางวัน การติดโซล่าร์เซลล์รับรองได้เลยว่าคุ้มค่าแน่นอน

แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูด้วยว่าบริเวณที่เราต้องการจะติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์นั้นสามารถรับแสงแดดได้เต็มที่หรือไม่ เพราะถ้าหากแผงโซล่าร์เซลล์ถูกบดบังจากแสงแดดหรือมีสิ่งสกปรกปกคลุม ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงได้ มีพื้นที่เพียงพอในการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์มากน้อยแค่ไหน โดยแผงโซล่าร์เซลล์ขนาด 1 กิโลวัตต์จะใช้พื้นที่ในการติดตั้งประมาณ 7.2 ตารางเมตร ดังนั้นต้องดูพื้นที่ในการติดตั้งให้เหมาะสมสำหรับแผงโซล่าร์เซลล์กันด้วย

ดังนั้นใครที่กำลังคิดว่าหน้าร้อนนี้จะติดตั้งโซล่าร์เซลล์กันดีหรือไม่ ก็ควรที่จะทำการหาข้อมูลเกี่ยวกับแผงโซลาร์เซลล์และข้อมูลราคาอัพเดตกันเสียก่อน แล้วพิจารณากันดูว่าคุ้มค่าหรือไม่ ซึ่งถ้าหากใช้ไฟเยอะ ๆ โดยเฉพาะในช่วงกลางวัน บอกได้เลยว่าคุ้มค่าแน่นอน แต่ทั้งนี้ควรเลือกบริษัทที่ทำการติดตั้งแผงโซล่าร์เซลล์ที่ได้มาตรฐาน มีบริการหลังการขายที่ดี ยิ่งถ้าหากมีบริการดำเนินเรื่องขออนุญาตติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ให้ด้วยก็ยิ่งเป็นการสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันทางการไฟฟ้าเองก็ได้ให้บริการจัดหาและออกแบบ รวมถึงให้คำปรึกษา วิเคราะห์ความคุ้มค่าของการติดตั้ง สำรวจ พร้อมทั้งยื่นเอกสารทางราชการ และติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (SolarRooftop) แบบครบวงจร มาไว้เป็นตัวเลือกให้พิจารณากันอีกด้วย

https://www.pea.co.th/sbiz/solarroof

https://www.scgbuildingmaterials.com/th/ideas/