ข้าราชการ ม.อ. เตรียมนำร่องออกนอกระบบ ตุลา 59 นี้
ข้าราชการ ม.อ. เตรียมนำร่องออกนอกระบบ ตุลา 59 นี้ ออกข้อบังคับชุดแรก 11 ฉบับ เพื่อประสิทธิภาพการทำงาน
อาจารย์พิชิต เรืองแสงวัฒนา รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยหลังจากพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ.2559 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 21กรกฎาคม 2559 ว่า ส่วนใหญ่การเปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เว้นแต่ ผู้บริหารระดับสูง เช่น อธิการบดี รองอธิการบดี หากยังเป็นข้าราชการอยู่จะต้องแสดงความจำนงในการเปลี่ยนเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยภายใน 30 วัน ส่วนระดับคณบดีจะมีเวลา 120 วัน ส่วนบุคลากรทั่วไปผู้ต้องการเป็นข้าราชการต่อไปก็จะเป็นได้จนเกษียณอายุ แต่สำหรับข้าราชการที่ต้องการปรับเปลี่ยนเป็นพนักงาน ก็จะได้มีการเตรียมแบบฟอร์มแสดงความจำนงไว้ โดยตั้งเป้าหมายไว้ให้มีการปรับเปลี่ยนสถานภาพของบุคลากรรุ่นแรก ในต้นเดือนตุลาคม 2559 ซึ่งช่วงเวลาของการสมัครในปีแรกจะมีมากกว่า 1 ครั้ง
บุคลากรที่เปลี่ยนสถานภาพ ในปีแรกจะได้รับการบรรจุเป็นพนักงานโดยไม่ต้องมีการประเมิน ในปีที่สองจะมีการประเมิน ส่วนเลย 3 ปีจะต้องรออัตราว่างและจะมีการสอบแข่งขันตามระบบปกติ โดยทั้งผู้ที่เปลี่ยนสถานภาพ และผู้ยังคงเป็นข้าราชการตามระบบเดิม จะมีการเข้มงวดเรื่องการประเมินมากขึ้น อย่างไรก็ตาม พนักงานมหาวิทยาลัยจะได้รับการดูแลภายใต้กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน เรื่องเงินชดเชยในกรณีต้องออกจากงานโดยไม่ได้มีความผิด ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับพนักงานในระบบใหม่ จะมีการปรับโครงสร้างเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในระดับคณะ สำนักงานอธิการบดี และหน่วยงานสนับสนุนทั่วไป โดยเฉพาะสำนักงานอธิการบดีวิทยาเขตหาดใหญ่ จะมีส่วนงานเพิ่มขึ้น และจะมีการแบ่งชัดเจนระหว่างสำนักงานมหาวิทยาลัยและสำนักงานวิทยาเขต
ส่วนภายในคณะนั้น จะมีส่วนงานลักษณะอื่น เช่น สาขาวิชา หรือ กลุ่มสาขาวิชา มาแทนที่ภาควิชา โดยระบบบริหารแต่ละหน่วยงานอาจไม่เหมือนกัน ตามจำนวนบุคลากร และขนาดของหน่วยงานข้าราชการที่ปรับเปลี่ยนเป็นพนักงาน จะมีการปรับฐานเงินเดือน ขึ้น 1.4 เท่า ซึ่งเป็นจำนวนที่ได้หักเงินสำหรับนำมาจัดการระบบสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่นๆ ไว้แล้ว นอกจากนั้น จะมีการดูแลเรื่องตำแหน่งวิชาการ โดยหากทำผลงานได้ดีจะได้เงินเพิ่มอาจจะมากกว่า 1 เท่าของตำแหน่งวิชาการเดิม ซึ่งถือเป็นแรงกระตุ้นให้มีการทำผลงานวิชาการ ขณะเดียวกันจะมีการให้เลือกเส้นทางการทำงานทางวิชาการ ว่าจะเน้นการสอนหรือวิจัย ซึ่งแต่ละเส้นทางจะมีความก้าวหน้าของตนเอง ทั้งสถานะและเงินประจำตำแหน่ง
“สิ่งที่บุคลากรทั่วไปควรให้ความสนใจ คือ ข้อบังคับฉบับใหม่ จำนวน 11 ฉบับ ที่มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งจะกระทบกับบุคลากร ทั้งพนักงานมหาวิทยาลัยในระบบเก่า และพนักงานใหม่ที่ปรับจากข้าราชการเป็นพนักงาน โดย หลังจากนี้ คณะทำงานนำโดยรองอธิการบดีฝ่ายบุคคลและประกันคุณภาพ จะจัดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อบังคับ ในทั้ง 5 วิทยาเขต จึงอยากให้ทุกคนเข้ามีส่วนร่วมในกระบวนการรับฟังความคิดเห็น ซึ่งมหาวิทยาลัยมีความคาดหวังว่าข้าราชการที่ปรับเปลี่ยนจะมีความกระตือรือร้นมากขึ้น มีผลงานมากขึ้น เพราะค่าตอบแทนมากขึ้น และสวัสดิการยังคงมีเหมือนเดิม” รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าว
อาจารย์พิชิต เรืองแสงวัฒนา